หลังจากทรุดลงติดพื้นราคาเหลือเพียง 1 สตางค์ ก่อนจะลากขึ้นปล่อยลงอยู่แถว 2-3 สตางค์มายาวนาน เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา หุ้นบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ก็ได้ฤกษ์ถูกจุดพลุไล่ราคาอย่างร้อนแรง
แม้ถูกตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย แต่ไม่อาจดับความร้อนแรงของ AQได้ จนต้องลงดาบซ้ำ โดยยกระดับมาตรการกำกับการซื้อขายในขั้น 2
กำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด หรือบัญชีแคชลบัลลานซ์ และห้ามหักกลบการชำระราคาค่าซื้อขายภายในวันเดียวกัน หรือห้ามเน็ตเซทเทิลเมนต์
AQ เปลี่ยนชื่อมาจากบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด หรือ KMC โดยหุ้นถูกพักการซื้อขายประมาณ 2 ปี หลังจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ขายหุ้นทิ้งและหุ้นกลับมาซื้อขายใหม่เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2560
การกลับมาซื้อขายใหม่วันแรก AQ สร้างความเสียหายให้นักลงทุนจำนวนมาก เพราะราคาถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 31 สตางค์ ก่อนลงมาปิดที่ 11 สตางค์ หลังจากนั้นหุ้นดิ่งลงมาตลอด และลงต่ำสุดที่ 1 สตางค์
AQ ถูกประคองให้เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 2-3 สตางค์ ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายประมาณ 1 ล้านบาทต่อวัน แต่การจุดพลุรอบใหม่ทำให้มูลค่าการซื้อขายพองโต ขณะที่ราคาหุ้นพุ่งทะยาน โดยเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ราคาปิดที่ 6 สตางค์ เพิ่มขึ้น 1 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 20% ขณะที่มูลค่าซื้อขาย 327.23 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณซื้อขาย 5,864.61 ล้านหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์ออกโรงส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนทันทีที่เห็นหุ้น AQ เคลื่อนไหวผิดจากสภาพการซื้อขายปกติ โดยประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายขั้นที่ 1 กำหนดให้ซื้อขายหุ้นด้วยเงินสด มีผลตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนถึง 4 ตุลาคมนี้ ทำให้ AQ สงบลงชั่วคราว
แต่วันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา มีการจุดพลุลากราคากันอีก โดยขยับขึ้นชนเพดานสูง 30% และไล่ราคาชนเพดานสูงสุดอีก 2 วันติด จนตลาดหลักทรัพย์ต้องประกาศยกระดับมาตรการกำกับการซื้อขายสู่ระดับ 2 มีผลระหว่างวันที่ 23 กันยายนถึง 12 ตุลาคมนี้
ไม่มีปัจจัยใดกระตุ้นราคาหุ้น AQ ไม่รู้ว่ามีคนกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังการจุดพลุลากราคาหุ้นตัวนี้หรือไม่ เพราะทางด้านพื้นฐานของบริษัท ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง และฐานะการดำเนินงานยังน่าห่วง โดยขาดทุนต่อเนื่องหลายปี นอกจากนั้น ยังมีคดีข้อพิพาทประเด็นหนี้สินกับธนาคารกรุงไทยอยู่
ผลการขาดทุนติดต่อหลายปี กระทบต่อฐานะทางการเงินของ AQ และทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว จนถูกแขวนป้าย “C”
ผู้ถือหุ้นรายย่อย AQ มีจำนวนทั้งสิ้น 14,965 ราย ซึ่งแทบทั้งหมดถือหุ้นต้นทุนสูงติดมือ เช่นเดียวกับนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรให้บุคคลในวงจำกัดจำนวน 72,640 ล้านหุ้น เมื่อปลายปี 2560 ในราคาหุ้นละ 5 สตางค์
ความร้อนแรงของ AQ ช่วง 3 วันที่ผ่านมา ไม่มีเหตุผลในเชิงพื้นฐานอธิบายได้ นอกจากสมมติฐานว่า น่าจะมีคนบางกลุ่มอยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้น และอาจยังไม่ได้เทขายหุ้นทำกำไรออกมาทั้งหมด
ถ้าสัญญาณเตือนของตลาดหลักทรัพย์ทำงาน มาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 2 กระตุกให้นักลงทุนทั่วไปได้สติ ไม่ตามแห่เข้าไปเก็งกำไร หุ้น AQ อาจต้องปิดฉาก ราคาไปต่อไม่ไหว
ส่วนใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังการลาก AQ ในรอบนี้ จะต้องแบกหุ้นต้นทุนสูงไว้เอง
และหากดันทุรังลากหุ้นต่อ มีสิทธิเจอผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ติดหุ้นต้นทุนสูงพากันถล่มขาย จนเจ็บหนักขึ้นไปอีก
การปลุกผี AQ รอบใหม่คงจบในเวลาอันสั้นหรืออาจจบลงแล้ว เมื่อตลาดหลักทรัพย์ออกโรงมาปราบผี