ธปท.และธนาคารกลางมาเลเซีย ส่งเสริมการค้าและการลงทุนข้ามพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ภายใต้กรอบการรวมตัวภาคการธนาคารอาเซียน เปิดรับสมัคร Qualified ASEAN Bank (QAB) ต่อยอดให้เกิดการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินและยกระดับคุณภาพการให้บริการ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยและธนาคารอาร์เอชบี ขอหารือกับธปท. ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์สัญชาติไทยที่ประกอบธุรกิจในประเทศมาเลเซียอยู่แล้ว 1 ราย คือ บางกอกแบงก์เบอร์ฮาด
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia : BNM) ได้เปิดรับสมัคร Qualified ASEAN Bank (QAB) สำหรับธนาคารพาณิชย์สัญชาติมาเลเซียและสัญชาติไทยที่สนใจ ซึ่งเป็นไปตามความตกลง QAB ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ ภายใต้กรอบการรวมตัวภาคการธนาคารอาเซียน (ASEAN Banking Integration Framework : ABIF) และเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน (ASEAN Financial Agreement on Services : AFAS)
การจัดตั้ง QAB มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน ซึ่งเป็นไปตามแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2025 ในการสร้างเศรษฐกิจอาเซียนให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยกำหนดคุณสมบัติของ QAB เพื่อเสถียรภาพของระบบการเงินของประเทศที่ QAB ไปจัดตั้งว่าจะต้องมีฐานะมั่นคงแข็งแกร่ง ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศตน และปฏิบัติได้ตามหลักเกณฑ์การกำกับดูแลความมั่นคงของประเทศที่ QAB ไปจัดตั้ง ซึ่ง QAB ที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามข้อผูกพันของประเทศคู่เจรจา
ความตกลงทวิภาคีนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การรวมตัวภาคการเงินอาเซียนตามกรอบ ABIF ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ธปท. และ BNM ได้เปิดตัวนวัตกรรมด้านการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่าง 2 ประเทศเป็นครั้งแรก
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า “ความตกลงทวิภาคีในการจัดตั้ง QAB นี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย และสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของอาเซียนในการรวมตัวภาคการเงินของภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การจัดตั้ง QAB ดังกล่าวจะนำมาซึ่งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีคุณภาพสูงและหลากหลาย ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชนของทั้ง 2 ประเทศให้ดียิ่งขึ้น ธปท. มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นบทบาทของ QAB ในการช่วยต่อยอดความร่วมมือด้านการเงินระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในด้านอื่นๆ เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ในภูมิภาค”
Ms.Nor Shamsiah Yunus ผู้ว่าการ BNM กล่าวว่า “ความตกลงระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียนี้แสดงถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศที่แน่นแฟ้น และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนของ
ทั้ง 2 ประเทศในการเพิ่มความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย BNM กำลังเดินหน้าที่สำคัญในการเข้าสู่การสร้างเศรษฐกิจอาเซียนที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเชื่อมั่นว่าความตกลง QAB นี้จะนำมาซึ่งการสร้างโอกาสทางธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างทั้ง 2 ประเทศ อันจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19”
น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. ได้บรรลุผลการเจรจา Qualified ASEAN Bank (QAB) กับธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia : BNM) โดย ธปท. พร้อมรับสมัครธนาคารพาณิชย์รายใหม่สัญชาติมาเลเซีย รวมถึงให้ความเห็นชอบธนาคารพาณิชย์สัญชาติมาเลเซียที่ประกอบธุรกิจในปัจจุบัน ได้รับสิทธิประโยชน์ตามผลการเจรจา
QAB เป็นหนึ่งในการรวมตัวภาคการเงินตามแผนงานจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community Blueprint) ซึ่งการรวมตัวของภาคการเงินผ่านบทบาทของธนาคารในภูมิภาคจะมีบทบาทช่วยสนับสนุนภาคเศรษฐกิจจริงเพื่อรองรับการค้าการลงทุนในภูมิภาคที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอาเซียนได้สรุปผลเจรจา QAB แล้วทั้งหมด 3 คู่ ซึ่งเป็นการเจรจาแบบทวิภาคีตามความพร้อมของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย-อินโดนีเซีย มาเลเซีย-ไทย และมาเลเซีย-ฟิลิปปินส์
สำหรับผลการเจรจา QAB ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงให้สิทธิประโยชน์ตามหลักการต่างตอบแทน ด้วยการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์แก่ธนาคารพาณิชย์ที่มีสัญชาติของอีกฝ่ายไม่เกิน 3 ราย โดยให้นับรวมธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบธุรกิจอยู่ในปัจจุบันด้วย ในกรณีของประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์สัญชาติมาเลเซียรายใหม่จะสามารถจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ (Subsidiary) ในฐานะ QAB สัญชาติมาเลเซียในประเทศไทยได้เพิ่มอีก 1 ราย เนื่องจากปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์สัญชาติมาเลเซียที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทยอยู่แล้ว 2 ราย ได้แก่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคาร อาร์ เอช บี ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์สัญชาติไทยรายใหม่จะสามารถจัดตั้ง Subsidiary ในฐานะ QAB สัญชาติไทยในประเทศมาเลเซียได้เพิ่มถึง 2 ราย เนื่องจากปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์สัญชาติไทยที่ประกอบธุรกิจในประเทศมาเลเซียอยู่แล้ว 1 ราย คือ บางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด
ธปท. หวังว่า QAB จะช่วยต่อยอดให้เกิดความร่วมมือของภาคการเงินในระดับภูมิภาค และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินและยกระดับคุณภาพการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการทางเงิน รวมถึงช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนได้สะดวกยิ่งขึ้นในอนาคต