หลักทรัพย์บัวหลวง แนะลงทุน “กองหุ้นไทย” และ “กองหุ้นสหรัฐฯ” เน้นกองคุณภาพ รับเฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย แถมอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปี 2564
นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการ ฝ่ายค้าตราสารการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) แนะนำการลงทุนในกองทุนรวมว่า สินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นอาจได้รับผลดีจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ แม้การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 21-22 กันยายน 2564 Fed กล่าวอย่างมีนัยสำคัญว่า อาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปี 2564 แนะนำผู้ลงทุนอาจใช้จังหวะนี้เข้าลงทุนใน “กองทุนหุ้นไทย” และ “กองทุนหุ้นสหรัฐฯ” เน้นกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพ และมีผลการดำเนินงานโดดเด่นเป็นหลัก
รายงาน BLS Top Funds แนะนำผู้ที่ลงทุนหุ้นไทยอยู่แล้ว และต้องการกระจายการลงทุนไปในหุ้นไทยที่เน้นการเติบโต ให้หาโอกาสเข้าลงทุนใน “กองทุน LHGROWTH” กองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยที่มีโอกาสการเติบโตสูง โดยมีให้เลือกชนิดสะสมมูลค่า (LHGROWTH-A) และปันผล (LHGROWTH-D) ซึ่งกองทุนดังกล่าวสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยช่วงที่ผ่านมามีผลงานติดอันดับ “Top Quartile” ต่อเนื่อง ส่วนผู้ลงทุนที่ต้องการเกาะกระแสตลาดสหรัฐฯ ขาขึ้น หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่ง เพราะสามารถแก้ไขปัญหาและฟื้นตัวจากเหตุการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ได้เป็นอย่างดี
ทำให้ก้าวจากวงจรการฟื้นตัวสู่การขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว เราแนะนำ “กองทุน B-USALPHA” กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่เน้นลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก JPMorgan Funds - US Growth Fund ไม่ต่ำกว่า 80% ของ NAVเช่น หุ้น Alphabet และ หุ้น Apple เป็นต้น
“ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวงสามารถติดตาม BLS Top Funds ฉบับเต็ม รายงานอัปเดตสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกแบบ Weekly พร้อมคำแนะนำ “กองทุนตัวท็อป” คุณภาพดี ผลงานเด่น จากทีมงานมืออาชีพมากประสบการณ์ที่มาแนะนำให้ลูกค้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ได้ที่เว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง ส่วนบุคคลทั่วไปที่สนใจรับรายงาน BLS Top Funds เพียงเปิดบัญชีกองทุนรวมออนไลน์ที่ www.bualuang.co.th” นายเสริมศักดิ์ กล่าว