xs
xsm
sm
md
lg

CGS มอง SET สัปดาห์นี้แกว่งในกรอบไร้ปัจจัยใหม่หนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) เปิดเผยว่า ประเมิน SET Index สัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,640-1,665 จุด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน หลังวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 2.35 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 7.2 แสนตำแหน่ง ด้านดัชนีหุ้นดาวโจนส์วันศุกร์ปิดลบเล็กน้อย 0.2% ตอบรับเชิงลบต่อตัวเลขแรงงานดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไปเชื่อว่าตลาดจะเริ่มมองไปยังนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัว ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยเป็นไปได้ที่จะมีแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากเงินบาทมีโอกาสเดินหน้าแข็งค่าต่อจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่ค่อยๆ ดีขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มต่ำกว่าคาด ชะลอโอกาสการใช้นโยบายการเงินเข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แต่เงินบาทที่แข็งค่าจะเป็นลบกับกลุ่มส่งออก แนะระมัดระวังเนื่องจากสัปดาห์ก่อนปรับตัวขึ้นมารับบาทอ่อนระยะสั้น

ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อสัปดาห์นี้ไม่ได้มีประเด็นโดดเด่นอย่างมีนัย แต่ให้ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ เนื่องจากจะเข้าใกล้ 1 สัปดาห์หลังผ่อนคลายมาตรการควบคุม ตัวเลขติดเชื้อล่าสุดเริ่มทรงตัวบริเวณ 1.4-1.5 หมื่นราย หากผ่านพ้นสัปดาห์นี้ไปแล้วตัวเลขไม่ได้เร่งตัวขึ้นจะถือเป็นเรื่องที่ดีว่าหลังจากผ่อนคลายแล้วสถานการณ์ยังควบคุมได้ แต่หากลดลงมาในระดับ 1 หมื่นราย (+/-2,000 ราย) จะยิ่งเป็นบวกมากขึ้นกับบรรยากาศการลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน แนะเล่นรอบที่ซื้อจากจุดต่ำสุดรอบนี้มองดัชนีบริเวณปัจจุบันเริ่มสะท้อนปัจจัยบวกไปพอสมควรแล้ว จึงมองเป็นโอกาสของการขายทำกำไรเล่นรอบ ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะสะสม Domestic ที่ยังมี Upside เมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19 เช่น AOT BBL BJC CRC CPN M MAJOR PLANB VGI ส่วนระยะสั้นภายในสัปดาห์แนะนำ ADVANC M ORI PLANB SAPPE WICE

M (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 61 บาท) เชื่อ M จะเป็นผู้ที่ฟื้นไวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย อิงช่วงไตรมาส 3/64 ที่คลาย Lock Down รายได้ฟื้นตัวกลับมาได้เกือบเท่าช่วงเวลาปกติ -7%YoY บ่งชี้ถึงธุรกิจยังเป็นที่ต้องการของประชาชน โควิด-19 ไม่ได้ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป และอิงลูกค้าในประเทศ ส่งผลให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการหายไปของต่างชาติ แต่สวนทางกับราคาหุ้นปัจจุบันที่ยัง Laggard

PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 7.7 บาท) คาดรายได้สื่อของ PLANB จะปรับตัวลดลงไปที่จุดต่ำสุดในไตรมาส 3/64 ก่อนจะมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของไตรมาส 4/64 หนุนจากการใช้จ่ายค่าโฆษณาของภาคเอกชนที่กลับมาอีกครั้ง การเริ่มรับรู้รายได้จากป้ายสื่อโฆษณาที่ติดตั้งใหม่ในปลายปีที่แล้ว ทั้งในส่วนที่อยู่ใน 7-eleven และสื่อป้ายรถเมล์ใน กทม.


กำลังโหลดความคิดเห็น