xs
xsm
sm
md
lg

COLOR โชว์กำไรพุ่ง 20%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สาลี่ คัลเล่อร์ ไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 15.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันปีก่อน ผลจากอุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มฟื้นตัว หนุนยอดขายเม็ดพลาสติกโตแรง ครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง แย้มมีคำสั่งซื้อระยะยาวจนถึงสิ้นปีนี้รอส่งมอบเพียบ พร้อมรุกขยายธุรกิจพลังงานทดแทน สร้างรายได้ใหม่ หนุนอัตรากำไรขยับ มั่นใจผลักดันผลงานปีนี้โตเข้าเป้า 6-8%

นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) (COLOR) ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ และสีผสมพลาสติกชนิดผง เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 297 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 25% มีรายได้รวมเท่ากับ 237 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 15.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 20% มีกำไรสุทธิเท่ากับ 13.14 ล้านบาท

สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้รวม 577 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.28% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 496 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 37.65 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 35% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 27.9 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายในส่วนธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่งผลให้มีออเดอร์ผลิตภัณฑ์พลาสติกเกี่ยวข้องรถยนต์เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายของผลิตภัณฑ์ใหม่สินค้าได้รับการตอบรับที่ดี อีกทั้งในส่วนของงานรับจ้างผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย รวมถึงการที่บริษัทฯ ได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีขึ้นทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี จึงสนับสนุนความสามารถในการทำกำไร และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

กรรมการผู้จัดการ กล่าวต่อว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมีทิศทางดีต่อเนื่อง เพราะความต้องการใช้เม็ดพลาสติกยังมีทิศทางที่ดี ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีคำสั่งซื้อระยะยาว จนถึงสิ้นปีนี้รอรับรู้รายได้ ประมาณ 20-30%

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งรับรู้ผ่านบริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายทุ่นลอยน้ำ สำหรับรองรับแผงโซลาร์ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งรับเหมาออกแบบ ติดตั้งและให้คำปรึกษาการวางระบบพลังงานแสงอาทิตย์ทุกระบบ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรเพื่อผลิตทุนลอยน้ำได้ในไตรมาส 4/2564 และทยอยส่งมอบให้ลูกค้าได้ภายในปีนี้

“แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 เชื่อว่ารายได้รวมปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 6-8% จากปีก่อน ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจากธุรกิจหลัก ขณะที่จะมีธุรกิจพลังงานทดแทนเข้ามาเพิ่มเติม และจะเห็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นในปีหน้า ซึ่งธุรกิจพลังงานทดแทนจะเป็นช่องทางสร้างรายได้เพิ่มในอนาคต รวมทั้งช่วยผลักดันให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ช่วยให้มีความมั่นคงมากขึ้น” นายพีรพันธ์ กล่าวในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น