ผู้บริหารซีแพนเนล ประเมินพิษโควิด-19 ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง กับ Bubble and Seal กระทบต้นทุน ชี้ระบบ Precast ลดความเสี่ยงผู้ประกอบการ ก่อสร้างรวดเร็ว บริหารกระแสเงินสดดีเวลลอปเปอร์ เผยดีมานด์บ้านเดี่ยว เติบโต
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) (CPANEL) ผู้ผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แนวทางที่ภาครัฐกำหนดในเรื่อง Bubble and Seal หรือ Sealed Route ทางบริษัทรับเหมาและโรงงานที่ผลิตวัสดุก่อสร้างดำเนินการอยู่ก่อนที่ภาครัฐจะสั่งปิดแคมป์ ซึ่งในปัจจุบันจะมีเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพฯ สาธารณสุข และหน่วยตรวจต่างๆ เข้าไปตรวจไซต์ก่อสร้างต่างๆ และอนุญาตให้ทำงานได้ นั่นแปลว่า เป็นหลักการที่จริงจังและถาวรในการเปิดแคมป์ ตราบใดที่ยังทำตามมาตรการของภาครัฐ
"ตอนนี้ต้อง Bubble and Seal ไปก่อน เพราะวัคซีนไม่พอ แต่สิ่งที่เราเห็นดีตรงที่มีเจ้าหน้าที่รัฐลงมาตรวจด้วย ซึ่งในส่วนของซีแพนเนล เราเป็นโรงงานจะอยู่ในข่ายเดียวกัน ข้อดีของ Bubble and Seal จะช่วยในเรื่องซัปพลายเชนไม่ขาด สิ่งที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของโรงงานยังต้องเตรียมพร้อม คือ พื้นที่รองรับสำหรับการจำกัดบริเวณกับผู้ที่ติดเชื้อ 14 วัน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราสามารถซื้อชุดตรวจ Rapid Antigen Test ได้ เพื่อให้โรงงานสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้เอง"
นายชาคริต กล่าวว่า สิ่งที่เรามองเห็นจากปัญหาเรื่องโควิด-19 นั้น ในระยะยาวจะส่งผลดีต่อ Precast เนื่องจากการปิดแคมป์ หรือ ปฏิบัติตาม Bubble and Seal จะมีภาระในเรื่องของแรงงานค่อนข้างมาก มีค่าใช้จ่ายในการเข้าไปดูแล มีต้นทุนที่สูงตามปริมาณของแรงงาน ซึ่งที่ผ่านมา ดีเวลลอปเปอร์น่ารัก ลงไปช่วยเรื่องอาหารกับคนงานที่ต้องปิดแคมป์ การจัดหาวัคซีนให้แรงงาน เป็นต้น
"การซื้อใจครั้งนี้มีผลมาก แรงงานไม่อยากย้ายสาย คืออยู่ที่ว่าผู้ประกอบการดูแลแรงงานในช่วงวิกฤตอย่างไรบ้าง คนทำงานในไซต์เห็นสิ่งที่เป็นอยู่ ซึ่งมีดีเวลลอปเปอร์มาคุยกับซีแพนเนล มองว่า Precast ไม่ใช่เทรนด์การก่อสร้างปกติที่จะเอามาอยู่จำนวนมากในไซต์งาน กระทบรูปแบบงานก่อสร้างทั่วไปที่ต้องใช้แรงงานเยอะๆ ไปรุมๆ กัน ขณะเดียวกัน ก็มีต้นทุนของ Bubble and Seal เช่น ชุดตรวจภายใน 1 เดือน ต้องตรวจกี่เปอร์เซ็นต์ สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนพฤติกรรมของการก่อสร้างได้เลย"
ตลาดบ้านแนวราบเติบโตอย่างมาก
นายชาคริต กล่าวถึงการกระจายความเสี่ยงในการทำตลาดว่า ปัจจุบัน ซีแพนเนลเริ่มมีงานโครงการที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เช่น ในจังหวัดฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ระยอง และจันทบุรี เป็นต้น และจากข้อมูลที่เห็นการย้ายออกนอกเมืองเป็นเทรนด์ การ WFH ส่งผลผู้ซื้อต้องการบ้านขนาดใหญ่เพื่อรองรับการใช้ชีวิตประจำวันในบ้านที่มากขึ้น ส่งผลให้โครงการบ้านแนวราบยังคงขายดีอยู่ ส่งผลให้บริษัทมีงานในมือเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เกือบ 90% เป็นลูกค้าภาคเอกชน ที่เหลือประมาณ 10% งานภาครัฐ ซึ่งกำลังการผลิตของบริษัทฯ สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าโครงการได้อย่างต่อเนื่อง
"Precast ช่วยให้กระบวนการทำงานและก่อสร้างรวดเร็วขึ้น ทำให้สต๊อกบ้านน้อยลง เพื่อรักษาเงินสดในมือให้มากที่สุด ซึ่งโควิด-19 บังคับอสังหาริมทรัพย์ และดีเวลลอปเปอร์ต้องรักษาสภาพคล่องให้มากขึ้น การที่ผู้ประกอบการปรับพอร์ตมาเน้นแนวราบ ยิ่งทำให้ Precast ดีขึ้น ประกอบกับด้วยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่งผลให้ผู้ประกอบการอาจจะไม่เลือกจะเก็บสะสมที่ดินไว้มากจนเกินไป แต่จะเลือกซื้อที่ดินและเร่งพัฒนาโครงการ ด้วยการอาศัยผนังสำเร็จรูปเข้ามาช่วยเร่งกระบวนการดังกล่าว ยิ่งโควิด-19 ทำซ้ำเติมปัญหาแรงงานให้ขาดแคลนหนักไปอีก" นายชาคริตกล่าว และมองภาพอสังหาฯ ในปี 2565 ว่า ตอนนี้ เริ่มเห็นออเดอร์ในการลงทุนของผู้ประกอบการในปีหน้าแล้ว ขณะเดียวกันเชื่อมั่นอารมณ์ของผู้ซื้อกลับมา