นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดี พร็อพเพอร์ตี้ ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมในงานแถลงข่าวการจัดงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ต่อประเด็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอีก 3 ประเทศท่ามกลางที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนิเซีย พบว่า จะมีความแตกต่างกัน กล่าวคือ
ตลาดอสังหาฯ ในประเทศสิงคโปร์ มีความพิเศษตรงที่เป็นตลาดของผู้ขาย เพราะซัปพลายเทียบไตรมาสต่อไตรมาสลดลง 14% โดยสินค้าที่นิยมซื้อจะเป็นห้องขนาดใหญ่ 3-4 ห้องนอน ซึ่งซัปพลายมีน้อย ทำให้มีการแย่งซื้อกันมาก โดยผู้ประกอบการหันมาเน้นพัฒนาสินค้าดังกล่าวออกมาขาย จึงทำให้ราคาแพงขึ้น 4% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ราคาปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี
ขณะที่ รัฐบาลสิงคโปร์ มีการออกมาตรการต่างๆ อัดฉีดเม็ดเงิน 1 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ช่วยลดภาระผู้ประกอบการและอื่นๆ ได้ แคมเปญนี้หมดไปเมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน รัฐบาลมีการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดีและรวดเร็ว เพราะด้วยภูมิศาสตร์เป็นเกาะ แตกต่างกับประเทศไทย เข้ามาได้หลายช่องทาง ทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้ยากกว่า
ตลาดอสังหาฯ ในประเทศมาเลเซีย ภาพรวมตลาดอสังหาฯ มีการชะลอตัวคล้ายกับประเทศไทย เป็นตลาดของผู้ซื้อมากกว่า เพราะนอกจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวแล้ว ยังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ส่งผลให้ดัชนีราคาลดลง 2% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ส่วนซัปพลายเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งสินค้าที่ขายได้ราคาต่ำกว่า 5 แสนริงกิต หรือประมาณ 4 ล้านบาท และเป็นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์เกตแชร์ใหญ่สุดของมาเลเซียด้วย
แต่รัฐบาลมาเลเซียจะมีมาตรการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ มี 2 แคมเปญ คือ แคมเปญ MM2H เป็นแคมเปญรัฐบาลสนับสนุนให้ต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาฯ ในมาเลเซีย ได้กำหนดมูลค่าการซื้อ 1 ล้านริงกิต หรือประมาณ 8 ล้านบาท เน้นเจาะลูกค้าคนซื้อที่ซื้อให้ลูกหลานมาเรียนหนังสือที่สิงคโปร์ เพราะมาเลเซียอยู่ใกล้สิงคโปร์ใช้เวลาเดินทางแค่ 30 นาที แคมเปญที่ 2 ช่วยกระตุ้นการซื้อบ้าน จูงใจในเรื่อของภาษีเพื่อให้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น เช่น ลดภาษี ค่าโอน เป็นต้น
ส่วนการพัฒนาโปรดักต์ไม่แตกต่างกัน มีความต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้น ปรับไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องทำงานที่บ้านมากขึ้น WFH แง่ดีไซน์ ฟังก์ชันมีการปรับเปลี่ยนไปเช่นกัน เน้นให้มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ไม่ฟิต ส่วนการออกแบบให้มีการสัมผัสน้อยที่สุด เช่น การเปิดประตู ใช้ฝ่ามือสัมผัส เป็นต้น
อนึ่ง "MM2H-Malaysia My Second Home" เป็นนโยบายที่เปิดช่องให้ผู้ซื้อชาวต่างชาติ สามารถจับจองกรรมสิทธิ์บ้านและคอนโดมิเนียมได้มากขึ้น จนทำให้มีกำลังซื้อจากฮ่องกงไหลทะลักเข้าไปชอปอสังหาฯ ในมาเลเซีย
โฟกัสเฉพาะมาตรการ MM2H นโยบายที่กระจายอำนาจให้รัฐบาลท้องถิ่น โดยไม่ต้องขออนุมัติจาก EPU มีผลให้ผู้เข้าเกณฑ์จะได้รับอนุมัติวีซ่า “social visa” เป็นเวลา 10 ปี สามารถต่ออายุได้อีก และใช้เป็นเอกสารเข้าออกประเทศได้หลายครั้ง หรือ Multiple-entry social visit pass สิทธิประโยชน์ MM2H ผู้ถือวีซ่าสามารถนำ “คู่สมรส-พ่อแม่-บุตร” ที่ยังไม่แต่งงานเข้าประเทศได้ นอกจากนี้ คู่สมรสชาวต่างชาติและเจ้าพนักงานต่างประเทศที่ประสงค์จะใช้ชีวิตวัยเกษียณ สามารถสมัครเข้าโครงการได้ อีกทั้งสามารถนำ “แม่บ้าน-รถยนต์ส่วนตัว” เข้ามาใช้ได้ด้วย กรณีซื้อรถยนต์ประกอบในประเทศจะได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิต และภาษีการขายอีกต่างหาก
สำหรับตลาดอสังหาฯ ในประเทศอินโดนีเซีย คล้ายประเทศไทย และมาเลเซีย เป็นตลาดของผู้ซื้อ โดยดัชนีราคาลดลงเล็กน้อย 0.4% ขณะที่ซัปพลายเพิ่มขึ้น 8% ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม ที่น่าสนใจอินโดนีเซียมีมาตรการใหม่ ออมนิบัสลอว์ อนุญาตให้ต่างชาติซื้ออสังหาฯ ในอินโดนีเซียได้ ซึ่งได้รับความสนใจค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดภาษีทางด้านอสังหาฯ เว้นการจัดเก็บ VAT อัตรา 7% รวมถึงยังมีมาตรการอสังหาฯ อื่นๆ ลดภาษี ปรับลดเงินดาวน์ เป็นต้น
โดยในรายละเอียดของมาตรการที่รัฐบาลอินโดนีเซียออกมา เพื่อช่วยกระตุ้นการซื้ออสังหาฯ ในประเทศ ได้แก่ มาตรการปลอดภาษี (100% VAT free) สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 2 พันล้านรูเปียห์ (ราว 4.4 ล้านบาท) มาตรการซื้อบ้าน-คอนโดโดยไม่ ต้องวางเงินดาวน์ (0% down payment) และธนาคารกลางยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้อยู่ในระดับต่ำ