ธปท.จับมือสมาคมธนาคารไทยและสมาคมธนาคารนานาชาติ ออกมาตรการพักชำระหนี้ 2 เดือนช่วยเหลือลูกหนี้ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ ลูกหนี้ขอรับความช่วยเหลือตั้งแต่ 19 กรกฎาคม 2564 นี้เป็นต้นไป
จากการที่ภาครัฐได้ยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด 10 จังหวัดเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจำกัดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบในวงกว้างโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจและลูกหนี้ที่มีฐานะการเงินเปราะบางมาตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ระลอกก่อนและได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อเยียวยาด้านรายได้อย่างเร่งด่วนให้ผู้ได้รับผลกระทบซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่ตรงจุด
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกหนี้ และเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มเติมให้แก่ลูกจ้างและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้ตรงจุดและ
ทันการณ์ จึงเห็นร่วมกันที่จะออกมาตรการเร่งด่วนด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ SMEs และรายย่อยเป็นระยะเวลา 2 เดือนให้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ ลูกหนี้ทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการทั้งในพื้นที่ควบคุม และนอกพื้นที่ควบคุมที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ เริ่มตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เมื่อหมดระยะเวลาพักชำระหนี้แล้วสถาบันการเงินจะไม่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ในทันทีเพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักกับลูกหนี้
สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อมคือลูกหนี้ที่ยังเปิดกิจการได้แต่รายได้ลดลงจากมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐสถาบันการเงินจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ตามความจำเป็น และสอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกหนี้
การให้ความช่วยเหลือตามแนวทางข้างต้นลูกหนี้สามารถติดต่อกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อแสดงความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ หากลูกหนี้สามารถให้ข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนถึงผลกระทบของกิจการ หรือการจ้างงานจะทำให้การพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยเจ้าหนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้มาตรการนี้เป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไป ลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพและสามารถชำระหนี้ได้จึงควรชำระหนี้ต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ภาระหนี้ในอนาคตเพิ่มขึ้นสูงเกินจำเป็น เช่นเดียวกับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินอยู่ก่อนหน้าที่ควรดำเนินการต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและยั่งยืนกว่า
อนึ่ง การพักชำระหนี้ภายใต้มาตรการนี้เป็นการให้ความช่วยเหลือขั้นต่ำ สถาบันการเงินสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงได้มากขึ้นตามความเหมาะสม
ธปท.และทุกสมาคมฯ รวมถึงสมาคมสถาบันการเงินของรัฐจะร่วมกันเร่งรัดและผลักดัน
การให้ความช่วยเหลือจากมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ธปท.ได้ขอให้ผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (nonbank) ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ไปพร้อมกันเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ขอให้ลูกหนี้ที่ประสบปัญหารีบติดต่อผู้ให้บริการทางการเงินที่ใช้บริการอยู่เพื่อรับความช่วยเหลือ และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อผู้ให้บริการทางการเงินโดยตรง หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร.1213