ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ แถลงการณ์เดินหน้าให้การสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือ CBDC อย่างเต็มที่ ชี้ธนาคารกลางจำเป็นต้องปรับปรุงการเงินให้ทันสมัยป้องกัน "Big Tech" เข้ามามีอำนาจครอบงำโลกการเงิน
สำนักข่าว Reuters รายงานถึงถ้อยแถลงของ Benoit Coeure ตัวแทนของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือ BIS เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือ CBDC เช่น ดอลลาร์ดิจิทัล ,เงินยูโร, เงินเยนญี่ปุ่น หรือเงินหยวนจีน ควรมีลักษณะเคลื่อนไหวไปสู่สกุลเงินดิจิทัล เหมือนรถไฟออกจากสถานีแล้วและเดินหน้าไปสู่อนาคต โดยแรงผลักดันดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการใช้เงินสดทั่วโลกลดลง และทางรัฐบาลพยายามป้องกันภัยคุกคามต่ออำนาจการพิมพ์เงิน ที่มาจาก bitcoin และความพยายามจาก "Big Tech" เช่น Diem ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Facebook หรือเดิมคือ Libra
"หากไม่มี CBDC เงินดิจิทัลจะถูกครอบงำโดยบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่มากขึ้น เนื่องจากพวกเขาจะใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมหาศาล และจะทำให้รัฐบาลสูญเสียการควบคุมเงินอธิปไตย" Coeure กล่าวเตือน
ตัวแทนของ BIS กล่าวอีกว่า เป็นที่ชัดเจนว่าขณะนี้ คริปโทเคอร์เรนซี ไม่ใช่เงินแต่เป็นสินทรัพย์เก็งกำไร โดยเน้นว่าในหลาย ๆ กรณีมีการใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการฟอกเงิน การโจมตี Ransomware และอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bitcoin มีคุณลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเพียงเล็กน้อยเมื่อพิจารณาถึงการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง ซึ่งรายงานดังกล่าวกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ CBDC โดยระบุว่าธนาคารกลางมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการพัฒนา CBDC สำหรับรายย่อยและสถาบัน ควบคู่ไปกับนวัตกรรมอื่นๆ เพื่อปรับปรุงระบบการชำระเงินแบบเดิม
อย่างไรก็ดีเพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของ CBDC อย่างเต็มที่สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความร่วมมือระหว่างประเทศจะเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ความร่วมมือในการออกแบบ CBDC จะเปิดช่องทางใหม่สำหรับธนาคารกลาง ในการต่อต้านการทดแทนสกุลเงินต่างประเทศและเสริมสร้างอำนาจอธิปไตยทางการเงินและแพลทฟอร์มอื่นๆที่จะตามมาในอนาคต
