ธนาคารกลางยุโรป ชี้การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของยูโรดิจิทัล มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากกว่า Stablecoin ที่ออกโดยเอกชน อีกทั้งไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้าเอา "ข้อมูลส่วนบุคคล" ไปขายต่อ
จากการเปิดเผยของ Cointelegraph ระบุถึงถ้อยแถลงของ Fabio Panetta สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ที่ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน และเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เงินยูโรดิจิทัลมีความปลอดภัยด้วยการปกป้องความเป็นส่วนตัวที่เหนือกว่าเหรียญ Stablecoin ที่ออกโดยเอกชน ซึ่ง Stablecoin ที่ออกโดยเอกชนนั้น แม้ว่าจะมีแรงจูงใจด้านการทำกำไร และผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ แต่ขณะเดียวกันภาคเอกชนเหล่านี้ ก็ยังสร้างรายได้ด้วยการเอาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือบัญชีไปขายต่อให้กับผู้ที่ต้องการอีกด้วย เพราะมีการรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมากในหลายลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้จากการสำรวจล่าสุดของ ECB ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวในสกุลเงินยูโรดิจิทัลซึ่งเป็นสนใจสำหรับชาวยุโรป เช่นเดียวกับความกังวลด้านความปลอดภัย
"หากธนาคารกลางเข้ามาดูแลการชำระเงินทางดิจิทัล ข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการปกป้องคุ้มครองให้มีความรัดกุมและปลอดภัยขึ้น เนื่องจาก ECB ไม่เหมือนบริษัทเอกชน เพราะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดเก็บ จัดการ หรือสร้างรายได้จากข้อมูลของผู้ใช้ ซึ่งมีหลายวิธีที่ ECB สามารถปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับ ในขณะที่อนุญาตให้มีการตรวจสอบตามกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น ธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับการฟอกเงิน การจัดหาเงินทุนเพื่อการก่อการร้าย หรือการหลีกเลี่ยงภาษี"
อย่างไรก็ตามจุดมุ่งหมายเพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับวิธีการรวบรวมและจัดการข้อมูลเมื่อใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง หรือ CBDC โดยเน้นการปกป้องความเป็นส่วนตัวซึ่งเป็นความสำคัญหลัก เพื่อให้เงินยูโรดิจิทัล สามารถช่วยรักษาความไว้วางใจในการชำระเงินในยุคดิจิทัลได้
