"ไรมอนแลนด์" รับนโยบายรัฐบาลการเร่งรัดปูพรมฉีดวัคซีน การเปิดเมืองภูเก็ต 1 ก.ค.นี้ และคำมั่นของนายกรัฐมนตรี ภายใน 120 วันประเทศไทยจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง เดินหน้าทุ่มเปิด 3 โครงการหรูใจกลางสุขุมวิท และวิลล่าภูเก็ต มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ลั่นปีนี้รายได้เข้าเป้า 2,700 ล้านบาท หลังไตรมาสแรกตุนมาแล้ว 1,500 ล้านบาท
นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด และการขาย บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RML) เปิดเผยถึงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงหลังของปี 2564 ว่า เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก แม้ขณะนี้ต้องรอให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ภายหลังที่รัฐบาลระดมฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงกระตุ้นที่จะดึงบรรยากาศและความมั่นใจในการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ตลอดจนลูกค้าชาวต่างชาติให้กลับมา และด้วยศักยภาพของตลาดคอนโดมิเนียมลักชัวรี ทำเลใจกลางเมืองที่มีจำนวนจำกัด แต่ยังคงมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากผู้ที่กำลังมองหาที่พักอาศัย หรือซื้อไว้เพื่อลงทุน ทำให้คอนโดมิเนียมลักชัวรียังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อระดับสูง
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุน จากการเปิดประเทศ 1 ก.ค. รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว รวมถึงการเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดย ศบศ.เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม ที่มีรายได้สูงและศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ด้วยสิทธิในการพำนักในประเทศไทยด้วยอายุวีซ่า 10 ปี ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายได้จากต่างประเทศ รวมถึงสิทธิในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ หรือเช่าระยะยาว เพื่อสร้างรายได้ การลงทุน และอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้นให้ประเทศ ทั้งนี้ หากมาตรการดังกล่าวผ่านการรับรองจากภาครัฐ จะส่งผลดีต่อบริษัทและประเทศชาติ จากกำลังซื้อของลูกค้าต่างชาติที่จะเริ่มกลับมาแน่นอน
"แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ตั้งแต่ต้นปีชะงักลง แต่แนวโน้มจะกลับมาดีและชัดเจนขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีตั้งเป้าหมายกลับมาเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น และหากรัฐบาลมีการขยายเพดานให้ต่างชาติถือครองห้องชุดเกิน 49 เปอร์เซ็นต์ จะยิ่งกระตุ้นตลาดมากขึ้น"
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ได้วางเป้าเปิดเพิ่มเป็น 3 โครงการใหม่ทั้งในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯและหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมมูลค่าโครง การ 20,000 ล้านบาท ได้แก่ (1.) โครงการร่วมทุนกับกลุ่ม “โตเกียว ทาเทโมโนะ” จากประเทศญี่ปุ่น ในรูปแบบคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี ย่านสุขุมวิท 38 ใกล้ทองหล่อ (เดิมจะเปิดตัวปีในปี 2563 (2.) โครงการคอนโดมิเนียมทำเลกลางสุขุมวิท และโครงการ Oceanfront Luxury Villas ในจังหวัดภูเก็ต มูลค่าประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงและลูกค้าชาวต่างชาติ โดยจะพิจารณาช่วงเวลาในการเปิดตัวตามสถานการณ์ที่เหมาะสม
ในด้านผลการดำเนินงานในปีนี้ มั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ตามเป้า 2,700 ล้านบาทอย่างแน่นอน เนื่องจากในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ไรมอนแลนด์ฯ สามารถสร้างรายได้สูงถึง 1,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44% จากเป้ารายได้ทั้งปี ซึ่งรายได้ที่เกิดขึ้นเกิดจากการโอนโครงการต่างๆ เช่น โครงการ The Lofts Silom โครงการ The Rivers และโครงการ The Lofts Asoke ส่วนในครึ่งปีหลังจะเร่งโอนโครงการสร้างเสร็จอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการ inventory ประมาณ 8,000 ล้านบาท มียอดขายรอโอน (backlog) คิดเป็นมูลค่า 5,700 ล้านบาท
ความคืบหน้าโครงการ TAIT Sathorn 12 คอนโดฯ ระดับลักชัวรี มูลค่า 4,300 ล้านบาท ปัจจุบันสร้างยอดขายไปแล้ว 75% คิดเป็นมูลค่า 2,600 ล้านบาท เป็นผลมาจากทำเลที่มีศักยภาพใจกลางเขตธุรกิจและศูนย์กลางทางการเงิน โดยมีลูกค้าชาวต่างชาติซื้อห้องชุดในสัดส่วนถึง 35% ซึ่งบริษัทจะนำโครงการ TAIT Sathorn 12 ไปนำเสนอขายในงานต่างๆ รวมถึงโรดโชว์ต่างประเทศเพื่อสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้น