กูรูเชียร์หุ้นแบงก์ยกแผง หลัง ธปท.ไฟเขียวปันผลระหว่างกาล

โบรกเกอร์ยกหุ้นแบงก์ KKP-SCB-BBL-KBANK-BAY-TTB-TISCO น่าสนใจ หลัง ธปท.เปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์จ่ายปันผลระหว่างกาลได้ คาดอัตราเฉลี่ยที่ 1% สูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ประเมิน KKP-TTB ปันผลระหว่างกาลสูงสุด

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส (ASPS) เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์สามารถจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend payout ratio) ไม่เกินปี 63 และ 50% ของกำไรสุทธิงวดครึ่งแรกปี 64 ขณะที่อัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี ธปท. จะพิจารณาอีกครั้งช่วง 4Q64 ภาพรวมจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน และสร้างความน่าสนใจด้านเงินปันผลให้กลุ่ม

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 62 พบว่า น้ำหนักของเงินปันผลจะอยู่ในช่วง 2H จึงคาดว่าในกรณีที่ธนาคารพาณิชย์มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล Div yield เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1% แต่ยังจูงใจเมื่อเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลอายุ 1 ปี (Yield ราว 0.5%)

ทั้งนี้ ธนาคารฯ ที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลมีโอกาสได้รับ Sentiment เชิงบวก นําโดย KKP, SCB, BBL, KBANK และ BAY

ขณะที่มาตรการอื่นที่ประกาศวานนี้ ได้แก่ การขยายระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ สำหรับลูกหนี้ SME จากเดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.64 ไปจนถึงสิ้นปี 64 ให้กลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการะบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 เปิดทางให้ธนาคารฯ อย่าง KBANK ที่มีพอร์ตสินเชื่อ SME มากสุดในกลุ่มให้ความช่วยเหลือลูกหนี้มากขึ้นในช่วงสั้น ช่วยชะลอการไหลตกชั้นของลูกหนี้เป็น NPL (Stage 3) และ Stage 2 ของกลุ่ม ส่วนระยะยาวยังต้องตามต่อไป

นอกจากนี้ ธปท. อยู่ระหว่างขยายระยะเวลาลดเงินนำส่งกองทุน FIDF จากเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 64 ในกรณีที่ขยายระยะเวลา ผลต่อประมาณการไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากการลดเงินนาส่ง FIDF เพื่อให้ ธพ. นําไปลดดอกเบี้ยช่วยเหลือลูกค้าอยู่แล้ว

ให้น้ำหนักแบงก์เท่าตลาด ชู KKP ให้ผลตอบแทนสูง

ให้น้ำหนักเท่าตลาด คาดหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและตลาดเชื่อว่าให้ Yield สูงอย่าง KKP (FV@B59) น่าจะได้รับความสนใจจากตลาด โดยปรับเพิ่มคําแนะนํา SCB (FV@B115) จาก Switch เป็นซื้อเก็งกำไร ตาม Sentiment เงินปันผล

ส่วน Top pick กลุ่ม ฝ่ายวิจัยเลือก KBANK (FV@B155) สําหรับการ Recovery ของเศรษฐกิจไทยขณะที่ในทางพื้นฐานชอบ TISCO (FV@B102) และ BBL (FV@B154)

บล.กสิกรฯ คาด KKP-TTP ให้ DY สูงสุด 2.3%-2.0% ตามลำดับ

ด้าน บล.กสิกรไทย เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ธปท.ให้จ่ายปันผลระหวางกาลอย่างมีเงื่อนไข มีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อย หลังอนุญาตให้จ่ายปันผลระหว่างกาลได้ คาด KKP และ TTB จะให้ DY ระหวางกาลสูงที่สุดที่ 2.3% และ 2.0% ตามลำดับ

ส่วน ธปท. ได้ขยายกรอบเวลามาตรการสินเชื่อ SME ตามคาด ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือที่เน้นกลุ่ม SME ที่ได้บผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน มองว่ามีโอกาสที่ ธปท. จะขยายกรอบเวลาคิดค่าธรรมเนียมมี FIDF ที่ 0.23% ที่ออกไปเป็น 65 เพื่อประโยชน์แก่ลูกหนี้ คงมุมมอง "บวก" ต่อกลุ่ม

CGS-CIMB คาดระยะสั้นหุ้น TISCO-KTB ปรับขึ้น

ด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (CGS-CIMB) ระบุว่า ในแง่ของหุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend yieid) สูงนั้น (ได้ประโยชน์จากการที่ ธปท. อนุญาตให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลได้) จะประกอบไปด้วย TISCO มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 7.62% (upside 13% จากราคาเป้าหมาย 101 บาท) และ KKP ที่ 5.46% ตามลำดับ (upside 4% จากราคาเป้าหมาย 59 บาท)

สำหรับราคาหุ้นกลุ่มธนาคารที่ CGS-CIMB ทำการศึกษา 7 บริษัท มีการปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 7.52% YTD ในขณะที่ดัชนี SET มีการปรับตัวขึ้น 12% YTD อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นหลักๆ SCB KBANK และ KKP ที่ปรับตัวขึ้น 18.86% 12.83% และ 9.66% YTD ตามลำคับ ในขณะที่ราคาหุ้น TISCO มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.85% YTD และ KTB ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.90% YTD ซึ่งยัง Laggard อยู่เมื่อเทียบกับกลุ่ม

ทำให้คาดว่าในระยะสั้นอาจเห็นการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น TISCO และ KTB ตามหุ้นหลักในกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นนำไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในแง่ของปัจจัยพื้นฐานประกอบ จะพบว่าหุ้นที่ยังมี upside สูงเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐานของ Cas-CIMB จะประกอบไปด้วย BBL มี upside 36% จากราคาเป้าหมายที่ 164 บาท KBANK มี upside 33% จากราคาเป้าหมายที่ 170 บาท และ TTB มี upside 15% จากราคาเป้าหมายที่ 1.33 บาท