การเปิดซื้อขายชั่วคราวหุ้น บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK และหุ้นบริษัท แม็กซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX ไม่ได้เงียบเหงาเสียทีเดียว โดยเฉพาะหุ้น NOK ซึ่งราคาพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง
ตลาดหลักทรัพย์อนุมัติให้เปิดซื้อขายหุ้น NOK และ MAX เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 2 มิถุนายนถึง 1 กรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นจะขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายหุ้น จนกว่าบริษัทจะส่งงบการเงินครบถ้วน
NOK และ MAX ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายหุ้นตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินปี 2563 ตามเวลาที่กำหนด และเมื่อผ่านพ้นมา 3 เดือน บริษัทจดทะเบียนทั้ง 2 แห่งยังไม่ส่งงบ ตลาดหลักทรัพย์จึงเปิดให้ซื้อขายเป็นการชั่วคราวโดยต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสด ส่วนราคาหุ้นในวันแรกที่เปิดซื้อขาย กำหนดเพดานขึ้นลงได้ 100%
ราคาปิดครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม หุ้น MAX ปิดที่ 2 สตางค์ และเปิดการซื้อขายใหม่ชั่วคราวเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน หุ้น MAX ปิดที่ 1 สตางค์ ลดลง 1 สตางค์ หรือลดลง 50% มูลค่าซื้อขาย 10.70 ล้านบาท และวันที่ 3 มิถุนายน ราคาปิดที่ 1 สตางค์
การซื้อขายหุ้น MAX ไม่มีความผิดปกติใด เพราะก่อนจะถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ราคาเคลื่อนไหวระดับ 1-2 สตางค์ และถือเป็นหุ้นที่อยู่ในสภาพตายซาก เพราะอดีตเคยเป็นหุ้นปั่น ขณะที่ผลประกอบการย่ำแย่ต่อเนื่อง ผู้ถือหุ้นรายย่อย จำนวน 14,237 ราย อยู่ในสภาพสิ้นหวัง
แม้ราคาจะทรุดลงมาเหลือเพียง 1 สตางค์ แต่ไม่มีใครสนใจเข้าไปช้อนซื้อ เพราะถือเป็นบริษัทที่ “ช้ำ” แล้ว จากการปั่นในอดีต จนกิจการแทบไม่เหลือซาก
ส่วน หุ้น NOK การกลับมาซื้อขายใหม่ ราคาพุ่งขึ้นร้อนแรงเกินความคาดหมาย ทั้งที่ก่อนถูกขึ้น SP เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา การซื้อขายซบเซา ราคาเคลื่อนไหวเพียง 1 บาทเศษ ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายวันละไม่กี่แสนบาท
แต่การกลับมาใหม่ บรรยากาศการซื้อขายคึกคักสุดเหวี่ยง จากราคาปิดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ราคา 1.09 บาท มีแรงซื้อไล่ราคาทันทีที่เปิดการซื้อขายวันที่ 2 มิถุนายน โดยเปิดที่ 1.27 บาท ก่อนจะขึ้นไปปิดที่ 2.18 บาท เพิ่มขึ้น 1.09 บาท หรือเพิ่มขึ้นชนเพดานสูงสุด 100% มูลค่าซื้อขาย 101.51 ล้านบาท
และการซื้อขายวันที่ 3 มิถุนายน หุ้น NOK ยังพุ่งทะยานต่อ ราคาปิดที่ 2.68 บาท เพิ่มขึ้น 50 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 22.94% มูลค่าซื้อขาย 203.04 ล้านบาท
จากราคา 1.09 บาท/หุ้น เพียง 2 วันทำการ หุ้น NOK พุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 2.68 บาท เพิ่มขึ้น 1.59 บาท หรือเพิ่มขึ้น 145.887% ทั้งที่ไม่มีข่าวดีอะไร นอกจากการเสนอแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ส่วนงบการเงินปี 2563 ยังไม่จัดส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ และงบการเงินปี 2562 ผู้สอบบัญชีก็ไม่แสดงความเชื่อมั่นและมีข้อสังเกต
NOK สร้างความเสียหายให้นักลงทุนนับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 หลังนำหุ้นเสนอขายประชาชนทั่วไปในราคาหุ้นละ 26 บาท แต่ราคาต่ำกว่าจองตั้งแต่วันแรก
และปรับตัวลงมาตลอด เพราะผลประกอบการย่ำแย่ ขาดทุนหลายปีติดต่อ โดยกลุ่มจุฬางกูร ซึ่งถือหุ้นใหญ่ประมาณ 75% ของทุนจดทะเบียน อัดฉีดเงินเพิ่มทุนเข้ามาหลายพันล้านบาท แต่ไม่อาจพยุงฐานะของบริษัทได้ จนต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
ราคาหุ้น NOK ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา เคยพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 2.80 บาท ซึ่งหากราคาหุ้นบนกระดานยังปรับตัวขึ้นต่อ ก็มีโอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้เหมือนกัน แม้ว่าสถานการณ์ของบริษัทยังเลวร้าย และไม่เห็นสัญญาณผลประกอบการฟื้นตัวในระยะสั้นก็ตาม
การเปิดให้ซื้อขายชั่วคราวครั้งนี้อาจเป็นโอกาสของผู้ถือรายย่อย จำนวน 7,158 ราย ในการตัดสินใจกับหุ้น NOK ที่ถืออยู่
ราคาที่ร้อนแรงขึ้นมาอาจเป็นอีกจังหวะในการขายตัดขาดทุนหุ้น NOK