BCP คาดผลงานโค้ง 2 ปีนี้ดีกว่าโค้งแรก หลังไม่มีปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น คาดทั้งปีใช้กำลังการกลั่น 1 แสนบาร์เรล/วัน พร้อมเดินหน้าขยายสถานีปั๊มน้ำมัน 100 สาขาตามแผน ขณะที่เตรียมยื่นไฟลิ่ง BBGI ไตรมาส 3 ปีนี้ ขายไอพีโอต้นปีหน้า ส่วนธุรกิจ EV ร่วมมือ PEA ขยายการติดตั้ง 152 จุดในปั๊มน้ำมัน คาดไตรมาส 2/64 จะให้บริการเพิ่มเป็น 52 สาขา ด้าน BCPG คงเป้า EBITDA ปีนี้โต 30-40% วางงบลงทุน 1.8 หมื่นล้านบาทซื้อกิจการ
นางเสาวภาพ สุเมฆศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานควบคุมบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงกลั่นในช่วงไตรมาส 2/64 จะดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากเริ่มกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติ
"คาดว่าจะมีอัตราการใช้กำลังการกลั่นจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1-1.1 แสนบาร์เรลต่อวัน จากช่วงไตรมาส 1/64 ที่ปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นทำให้อัตราการใช้อยู่ที่ประมาณ 6.5 หมื่นบาร์เรลต่อวัน และในปีนี้จะไม่มีการปิดซ่อมบำรุงแล้ว" นางเสาวภาพ กล่าว
ตั้งเป้าปี 64 ใช้กำลังการกลั่น 1 แสนบาร์เรล/วัน
สำหรับภาพรวมทั้งปี 64 บริษัทมีแผนใช้กำลังการกลั่นอยู่ที่ระดับ 1 แสนบาร์เรลต่อวัน โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้มี 2 ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจดรงกลั่นคือ ค่าการกลั่นซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่กลับมาจากสถานการณ์ฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมมากขึ้นชวยหนุนค่าการกลั่น แต่ฝั่งเอเชียสถานการณ์โควิด-19 ยังน่ากังวลทั้งในอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่นยังเป็นปัจัยกดดันค่าการกลั่น
ขณะที่อีกปัจจัยมาจากความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ ซึ่ง BCP จำหน่ายน้ำมันในประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยสถานการณ์โควิด-19 หากยังส่งผลกระทบความต้องการใช้น้ำมันลดลง บริษัทจะเร่งหาทางแก้ไข โดยอาจพิจารณาส่งออกดีเซลเพื่อทดแทน และขยายตลาดกลุ่ม Unconverted Oil หรือ UCO
วางแผนขยายปั๊มน้ำมันเพิ่ม 100 สาขา
ส่วนแผนการขยายสถานีปั๊มน้ำมันในปีนี้ยังคงขยายเพิ่มอีก 100 สาขา โดยมุ่งเน้นเส้นทางโดยช่วงไตรมาส 1/64 เปิด 11 ใหม่ไปแล้ว ส่งผล ณ สิ้นไตรมาสดังกล่าวมีสาขารวมอยู่ที่ 1,243 สาขา
ด้านสาขากาแฟแบรนด์ Intanin ตั้งเป้าปีนี้จะขยายใหม่อีก 150 สาขา โดยไตรมาส 1/64 เปิด 21 ใหม่ไปแล้ว ส่งผลให้สิ้นไตรมาสดังกล่าวมีสาขารวมทั้งสิ้น 694 สาขา
ส่วนธุรกิจ EV ซึ่งจับมือร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ซึ่งจะขยายการติดตั้ง 152 จุดในปั๊มน้ำมัน ซึ่งคาดว่าในช่วงไตรมาส 2/64 จะสามารถให้บริการเพิ่มเป็น 52 สาขา จากไตรมาส 1/64 ที่ให้บริการแล้ว 18 สาขา
ยื่นไฟลิ่ง BBGI ไตรมาส 3 นี้ ขายไตรมาสแรกปีหน้า
นอกจากนี้ สำหรับธุรกิจในกลุ่มอื่นๆ คือบริษัทบีบีจีไอ (BBGI) ซึ่งทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ คาดว่าจะยิ่นไฟลิ่งได้ในช่วงไตรมาส 3/64 นี้ และคาดว่าจะเสนอขายไอพีโอได้ในช่วงไตรมาส 1/65 ส่วนบริษัทบีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG คาดว่า โรงไฟฟ้าพลังน้ำกำลัง 114 เมกะวัตต์ใน สปป.ลาว ช่วงไตรมาส 2/64 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/64 ด้านโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ของญี่ปุ่นรวม 65 MW มีแผนจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ช่วงครึ่งหลังปีนี้
BCPG คงเป้า EBITDA ปีนี้โต 30-40%
น.ส.ภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชีและยุทธศาสตร์องค์กร บริษัทบีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้ากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปีนี้จะเติบโต 30-40% ตามการเติบโตของโรงไฟฟ้าในพอร์ต และจากการซื้อกิจการ
"การเติบโตดังกล่าวหลักๆ จะมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ สปป.ลาว ที่คาดจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น หลังคาดว่ามีอัตราการผลิตมากกว่าปีก่อนอย่างมีนัยจากฝนที่มากกว่าปกติ โดยไตรมาส 1/64 ค่า CF ขยับขึ้นมาที่ 27.7% เป็นเหตุผลที่สำคัญที่บริษัทสามารถรับรู้รายได้ดีขึ้น ประกอบกับเขื่อนน้ำสาน 3A และ 3B ที่ซื้อกิจการมารับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ ทำให้สัดส่วนรายได้ใน สปป.ลาวดีขึ้น" น.ส.ภัทร์ภูรี กล่าว
ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นรายได้ก็โต 20% และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเตรียมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 4/64 นี้อีก 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 65 เมกะวัตต์
ตั้งงบลงทุน 1.8 หมื่นล้านบาท ซื้อกิจการโรงไฟฟ้าใหม่
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างมองหาดีลเพื่อซื้อกิจการ (M&A) ในโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพื่อเข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงานในปีนี้ ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป โดยวางงบลงทุนปีนี้ 18,000 ล้านบาท ซึ่งหลักๆ จะใช้ในการเข้าซื้อกิจการที่สามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที และการพัฒนาโครงการที่ดำเนินการก่อสร้างอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถหาโครงการใหม่ได้ตามแผนการลงทุนในปีนี้
โดยปัจจุบัน BCPG มีโครงการที่ COD แล้ว 474 MW และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการอีก 386 MW ครอบคลุมใน 6 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม