xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นเอเชียปรับผันผวน วิตกเงินเฟ้อกดดันตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในเช้าวันนี้ หลังได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มต่างๆ เป็นวงกว้าง ตั้งแต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีไปจนถึงกลุ่มพลังงาน โดยความตื่นตระหนกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อได้ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะขาดแคลนแรงงานในสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน เม.ย.ของสหรัฐฯ ในวันนี้

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,429.75 จุด ลดลง 12.10 จุด หรือ -0.35%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,712.10 จุด เพิ่มขึ้น 103.51 จุด หรือ +0.36% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,073.92 จุด เพิ่มขึ้น 60.11 จุด หรือ +0.21%

นักวิเคราะห์จากบริษัทแอลพีแอล ไฟแนนเชียล กล่าวว่า ขณะนี้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อไม่เพียงแต่ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังกดดันให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มอื่นๆ เป็นวงกว้าง โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดความกังวลดังกล่าวมาจากการที่สหรัฐฯ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น และล่าสุดทางการสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะขาดแคลนแรงงาน

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานพุ่งขึ้น 8% สู่ระดับ 8.12 ล้านตำแหน่งในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือน ธ.ค.2543

ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ซึ่งหากตัวเลข CPI พุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้จะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น รวมทั้งอาจส่งผลให้เฟดชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยอาจลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน


กำลังโหลดความคิดเห็น