ต้องแสดงความยินดีกับนักลงทุนที่ได้โควตาจองหุ้นบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เพราะร่ำรวยกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะผู้ที่สามารถขายได้ในราคาสูงสุด หรือขายในราคาเปิด
TIDLOR นำหุ้นจำนวน 85 ล้านหุ้น เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อ ในราคาหุ้นละ 36.50 บาท โดยจัดสรรให้คนละ 1,000 หุ้น ซึ่งมีประชาชนได้รับการจัดสรรจากระบบสุ่มคัดเลือกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 85,000 คน
หุ้นเข้าซื้อขายวันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดย เปิดที่ราคา 53.50 บาท และถูกไล่ขึ้นไปสูงสุดที่ 55 บาท ก่อนจะถูกเทขาย ราคารูดลงมาต่ำสุดที่ 45.25 บาท และจะกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 45.75 บาท สูงกว่าราคาจอง 9 บาท หรือสูงกว่าจอง 25.34% มูลค่าซื้อขาย 33,265.87 ล้านบาท
ฝ่ายเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายแห่ง ตั้งราคาเป้าหมายหุ้น TIDLOR ที่ราคาประมาณ 43-44 บาท แต่มีบางแห่งตั้งราคาเป้าหมายสูงสุดเกิน 50 บาท
ดังนั้น ราคาปิดที่ 45.75 บาท ถือเป็นราคาที่ดีมาก เพราะราคาเป้าหมายที่โบรกเกอร์ตั้งไว้ หมายถึงราคาเป้าหมายภายในปีนี้ ส่วนราคาที่ไล่เคาะกันที่ 53.50 บาทช่วงเปิดตลาด หรือไล่กันไปสูงสุดที่ 55 บาท เป็นราคาที่เกิดจากการเก็งกำไร
และผลลัพธ์ของการเก็งกำไรก็คือ การติดดอย การแบกหุ้นต้นทุนสูง ซึ่งโอกาสที่ TIDLOR จะเด้งกลับไปที่ 55 บาท หรือปรับตัวขึ้นประมาณ 20% คงไม่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น
เช่นเดียวกับหุ้นน้องใหม่ 5 ตัวก่อนหน้าที่เข้ามาซื้อขายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ซึ่งไม่มีหุ้นน้องใหม่ตัวใดดีดกลับขึ้นไปสู่ราคาสูงสุดในวันแรกที่เข้าซื้อขายได้
นักเก็งกำไรประเภทเสือปืนไว และไล่ราคาหุ้น TIDLOR คงต้องทำใจแล้วว่า “ติดดอย” และหากทำใจตัดขายขาดทุนไม่ได้ต้องถือรอต่อไป
ในบรรดาหุ้นน้องใหม่ที่เข้ามาซื้อขายหลังวิกฤตโควิด-19 ระลอก 3 รวม 6 บริษัท หุ้น TIDLOR เป็นหุ้นน้องใหม่ที่สภาพการซื้อขายดำเนินไปตามธรรมชาติมากที่สุด ราคาหุ้นซื้อขายวันแรกที่เหนือจองระดับ 25% ถือเป็นผลตอบแทนที่เหมาะสม
แตกต่างจากหุ้นน้องใหม่ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 2 บริษัทคือ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT และบริษัท แอสเซท ไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ที่ราคาหลุดจองแล้วทั้ง 2 บริษัท
รวมทั้งแตกต่างจากหุ้นใหม่ที่เข้าซื้อขายในตลาด MAI อีก 3 บริษัท ประกอบด้วย พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS หรือบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN และบริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO ซึ่งถูกลากราคาขึ้นไป 100-200%
ก่อนจะถูกถล่มขายจนราคารูดลง สร้างความเสียหายให้นักลงทุนที่ตามแห่เข้าไปเก็งกำไร โดยไม่รู้ว่ามีขาใหญ่หรือเจ้ามืออยู่เบื้องหลังความร้อนแรงของราคาหรือไม่
ถ้าไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์การจัดสรรหุ้นให้ประชาชนจองซื้อ โดยเจียดหุ้นส่วนเกินหรือหุ้นกรีนชูจำนวนทั้งหมด 136.11 ล้านหุ้น มาจัดสรรให้ประชาชนเพิ่มเติมเพียง 28.5 ล้านหุ้น
TIDLOR จะเป็นแบบอย่างของหุ้นน้องใหม่ที่เข้ามาซื้อขายอย่างโปร่งใส และสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่นักลงทุน
ส่วนราคาที่พุ่งทะยาน ขึ้นไปสูงสุดที่ 55 บาท ถือเป็นราคาที่ร้อนแรงเกินเหตุ และนำมาซึ่งแรงขายทำกำไรจนร่วงลงมาสู่ปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็น
และแม้จะปรับตัวลงมาปิดที่ 45.75 บาท แต่ก็เป็นราคาที่เต็มมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินไว้ โอกาสจะขยับแรงขึ้นไปใหม่จึงมีความเป็นไปได้น้อย
ขณะที่โอกาสปรับฐานลงต่อมีความเป็นไปได้มากกว่า
นักลงทุนที่สนใจหุ้น TIDLOR อยากมีไว้ติดพอร์ต น่าจะรอช้อนได้
ประชาชนที่จองซื้อ 8.5 หมื่นราย ทุกคนโกยกำไรเฉลี่ยคนละกว่า 1 หมื่นบาท จาก TIDLOR หุ้นน้องใหม่ที่สร้างความคึกคักให้ตลาดหุ้นตัวล่าสุด
