ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ตั้งสหภาพบล็อกเชนอาเซียน

6 ประเทศอาเซียนลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในพิธีออนไลน์ จัดโดยสมาคมบล็อกเชนสิงคโปร์ เมื่อ 22 เมษายน 64 ที่ผ่านมา เป็นการร่วมมือกันเป็นครั้งแรกขององค์กรบล็อกเชนทั่วภูมิภาคอาเซียนและออสเตรเลีย มุ่งสู่ความร่วมมือด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนระดับเอ็นเทอร์ไพรส์ เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการกำกับดูแล ด้านการศึกษา และด้านแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม

สมาคมบล็อกเชนอินโดนีเซีย (ABI) สมาคมบล็อกเชนสิงคโปร์ (BAS) สมาคมเล็ดเจอร์กระจายศูนย์แห่งฟิลิปปินส์ (DLTAP) ศูนย์ธุรกิจและการเงินนานาชาติลาบวน (Labuan IBFC) สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) และบล็อกเชนออสเตรเลีย (BA) ประกาศการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการก่อตั้งสหภาพบล็อกเชนอาเซียน (ASEAN Blockchain Consortium - ABC) เพื่อสร้างและเสริมความแกร่งในความสัมพันธ์ระดับนานาชาติในการส่งเสริมเทคโนโลยีบล็อกเชน พิธีลงนามดิจิทัลนี้ได้รับการสนับสนุนจากเดโดโค (Dedoc0) แพลตฟอร์มการลงนามบนบล็อกเชน ซึ่งนับเป็นการร่วมมือกันเป็นครั้งแรกขององค์กรบล็อกเชนทั่วภูมิภาคอาเซียนและออสเตรเลีย ในการผลักดันการศึกษาด้านบล็อกเชน แบ่งปันความรู้ด้านการพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัล และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้งานทั่วทั้งอาเซียนและออสเตรเลีย

พิธีลงนามถูกจัดในรูปแบบออนไลน์โดย BAS ในวันที่ 22 เมษายน โดยมีสักขีพยาน ได้แก่ นายเอดี พริโอ พัมบูดี (Mr.Edi Prio Pambudi) ที่ปรึกษาอาวุโสของรัฐมนตรีกระทรวงการประสานด้านเศรษฐกิจ (อินโดนีเซีย) นายโซปเนนดู โมฮานติ (Mr.Sopnendu Mohanty) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายฟินเทคแห่งองค์การเงินตราแห่งประเทศสิงคโปร์ (MAS) และมีผู้เข้าร่วม ได้แก่ นายเชีย ฮอก ไล (Mr.Chia Hock Lai) ประธานร่วม BAS นายมูฮัมมัด เดวีโต ดังกิโอ (Mr.Muhammad Deivito Dunggio) ประธาน ABI นายจุสโต เอ ออร์ทิซ (Mr.Justo A Ortiz) ประธาน DLTAP น.ส.ฟาราห์ จาฟาฮ์-ครอสบี (Ms.Farah Jaafar-Crossby) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Labuan IBFC นายพีรเดช ตันเรืองพร ประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (Thai Digital Asset Operators Trade Association : TDO) และนายสตีฟ วาลลาส (Mr.Steve Vallas) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BA หลังจากพิธีลงนามออนไลน์ ได้มีการจัดการสัมมนาออนไลน์หัวข้อ “บล็อกเชนในอาเซียน : โอกาสและความท้าทาย” เพื่อพูดคุยเรื่องแนวโน้มของอุตสาหกรรมบล็อกเชนในภูมิภาคอาเซียน

ผู้ร่วมลงนาม MOU ทั้ง 6 รายมีเป้าหมายร่วมกันในการรักษาผลประโยชน์ของสาธารณะในเรื่องของเทคโนโลยีบล็อกเชน และ MOU นี้ยังมุ่งหวังที่จะยกระดับความร่วมมือในทั้ง 6 องค์กรเพื่อนำอุตสาหกรรมนี้ไปสู่ระดับใหม่ ด้วยการมีส่วนร่วมด้วยกันในการพัฒนาอุตสาหกรรมบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล องค์กรเหล่านี้จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเสริมความเข้าใจและส่งเสริมการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปใช้งาน องค์กรเหล่านี้ยังจะร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบและเกณฑ์การกำกับดูแลอีกด้วย

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา BAS ได้ร่วมพูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเชิงรุก และได้จัดโครงการการศึกษาต่างๆ เช่น โครงการผู้มีความสามารถด้านบล็อกเชน ร่วมกับ Singapore Polytechnic เพื่อให้ความรู้และบ่มเพาะผู้มีความสามารถด้านบล็อกเชน BAS ร่วมกับ Elliptic Singapore และ Global FinTech Institute ยังได้เปิดตัวโครงการฝึกอบรมการทำตามกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลในไตรมาส 3 ปี 2564 เพื่อยกระดับความสามารถของมืออาชีพในการรับมือกับการทำตามกฎระเบียบด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาค

นายเอดี พริโอ พัมบูดี (Mr.Edi Prio Pambudi) ที่ปรึกษาอาวุโสของรัฐมนตรีกระทรวงการประสานด้านเศรษฐกิจ (อินโดนีเซีย) กล่าวว่า “การเชื่อมต่อแบบดิจิทัลเป็นเรื่องด่วนในช่วงที่มีโรคระบาดเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่บล็อกเชนจะมาเปลี่ยนภาพการเชื่อมต่อแบบดิจิทัลโดยที่มีการปรับใช้ขั้นสูง”

นายเชีย ฮอก ไล (Mr.Chia Hock Lai) ประธานร่วม BAS กล่าวว่า “การเติบโตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนนั้นสูงมาก และ BAS ภูมิใจที่ได้ร่วมกับสมาคมต่างๆ ในอาเซียนและออสเตรเลียเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อไปด้วยความเร็วที่เหมาะสมและคงอยู่ได้ ในขณะที่มอบพื้นที่ให้เกิดนวัตกรรมมากมาย”

นายมูฮัมมัด เดวีโต ดังกิโอ (Mr.Muhammad Deivito Dunggio) ประธาน ABI ให้ความเห็นว่า “การเติบใหญ่ของเทคโนโลยีบล็อกเชนในโลกนี้นั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ อินโดนีเซียซึ่งมีอัตราการนำดิจิทัลมาใช้สูงที่สุดจะเป็นแนวหน้า และ MOU นี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมบล็อกเชน”

นายจุสโต เอ ออร์ทิซ (Mr.Justo A Ortiz ประธาน DLTAP) กล่าวว่า “MOU นี้จะเปิดให้เราแบ่งปันประสบการณ์ของเราและเรียนรู้จากสมาชิกสหภาพรายอื่นๆ โดยเฉพาะในด้านของการใช้บล็อกเชนเพื่อเป็นเครื่องมือการปกครอง เพื่อตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่เพิ่มมูลค่าที่เกี่ยวข้องกับความไว้ใจในการทำธุรกรรมระหว่างฝ่ายที่ยึดถือผลประโยชน์ของตัวเอง เราเฝ้ารอที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนอุตสาหกรรมให้เติบโตในอาเซียนและออสเตรเลีย”

น.ส.ฟาราห์ จาฟาฮ์-ครอสบี (Ms.Farah Jaafar-Crossby) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Labuan IBFC ให้ความเห็นว่า “ในฐานะเขตปกครองที่เป็นมิตรด้านดิจิทัล เราเชื่อในอนาคตของเทคโนโลยีเล็ดเจอร์กระจายศูนย์ที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยเฉพาะในบริบทของการเป็นสื่อตัวกลางการเงินและการเปิดโอกาส ดังนั้น Labuan IBFC มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้และการเจริญเติบโตในทั่วทั้งภูมิภาค และเชื่อว่า MOU เป็นการเริ่มต้นที่วิเศษไปยังเป้าหมายนี้”

นายพีรเดช ตันเรืองพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Upbit Thailand) ในฐานะของประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (Thai Digital Asset Operators Trade Association : TDO) กล่าวว่า “เรามีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ของสมาคมอื่นๆ และ MOU นี้ถือว่าเป็นก้าวสำคัญไปสู่ความร่วมมือระดับนานาชาติที่น่าตื่นเต้นซึ่งเราอาจได้เห็นในอนาคต”

นายสตีฟ วาลลาส (Mr.Steve Vallas) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BA กล่าวว่า “การสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติและการพูดคุยด้านการดูแลกำกับระดับนานาชาติเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนระบบนิเวศน์บล็อกเชนและ DLT บล็อกเชนออสเตรเลียได้รับเกียรติให้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอุตสาหกรรมบล็อกเชนกับเพื่อนบ้านอาเซียนของเรา MOU นี้จะเสริมสร้างความสามัคคีและโอกาสสำหรับทุกประเทศที่มีส่วนร่วม”

สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ถูกก่อตั้งเพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยได้มารวมตัวกันเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมไปด้วยกัน