หุ้นปิดบวก 5.94 จุด เทคนิเคิลรีบาวนด์รับแรงหนุนกลุ่มโรงพยาบาล-เหล็กเป็นหลัก หลังปรับลงไปมากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง โดยคาดว่านักลงทุนจะใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Selective Buy
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวนด์ได้ดีในช่วงบ่าย เป็นการปรับขึ้นในลักษณะกระจุกตัวในกลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มเหล็กเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์ที่มาช่วยหนุนด้วย จึงมองเป็นการเกิดเทคนิเคิลรีบาวนด์หลังจากที่ปรับลงไปมากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มองว่าตลาดแกว่งไซด์เวย์ลักษณะสร้างฐานช่วงรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศหลังจำนวนผู้ติดเชื้อยังสูง ซึ่งยังต้องติดตามการประชุมศูนย์บริการสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ช่วงปลายสัปดาห์ และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/64
ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้แกว่งไซด์เวย์ในแดนบวก-ลบในลักษณะนิ่งๆ ในช่วงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กลางสัปดาห์นี้
ด้านนายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นจาก Sentiment จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชะลอลง แต่การฟื้นตัวยังมีข้อจำกัดเนื่องจากต้องเฝ้าติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และความคืบการจัดหาวัคซีน รวมถึงมาตรการของรัฐบาลที่จะออกมาเยียวยาเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์นี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่ทยอยประกาศออกมา โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเหล็กที่แนวโน้มราคาเหล็กจะสูงขึ้น ซึ่ง Outperform และมีแรงซื้อเข้ามามาก ขณะที่หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลก็เป็นหุ้นที่น่าสนใจในระยะสั้นตามรายได้ที่จะเพิ่มขึ้น จากโอกาสการจัดหาวัคซีนของภาคเอกชน การฉีดวัคซีน และการตรวจเชื้อโควิด-19 หลังประชาชนตื่นตระหนกต่อการแพร่ระบาดของเชื้อเมื่อผู้ติดเชื้อทวีจำนวนขึ้น อีกทั้งยังคงต้องจับตามองงบการเงินในกลุ่มพลังงานที่คาดว่าผลประกอบการน่าจะออกมาดีด้วย
สำหรับหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีกที่มีแรงขายออกมาค่อนข้างมาก เนื่องจากการฟื้นตัวของรายได้น่าจะคงชะลอออกไปเรื่อยๆ เพราะประชาชนยังไม่เชื่อมั่นในการกลับมาใช้บริการ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้เนื่องจากไทยยังคงปิดประเทศอยู่
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก อย่างตลาดหุ้นไต้หวัน เกาหลี และญี่ปุ่น ตรงกันข้ามกันตลาดในแถบบ้านเราอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียที่ติดลบ ขณะตลาดหุ้นยุโรปยังไม่เคลื่อนไหวมากเท่าไหร่ โดยตลาดต่างประเทศยังคงต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ความคืบหน้าการกระจายวัคซีน และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเช่นเดียวกับบ้านเรา
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,559.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.94 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.38% มูลค่าการซื้อขาย 83,672.26 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (27 เม.ย.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง พร้อมให้แนวรับ 1,545-1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,565-1,570 จุด
ส่วนนายธนเดช กล่าวว่า ตลาดคงจะเคลื่อนไหวคล้ายคลึงเหมือนในวันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,545 จุด ส่วนแนวต้าน 1,572 จุด โดยคาดว่านักลงทุนจะใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Selective Buy