หุ้นปิดเช้าบวก 0.23 จุด โดยภาพรวมตลาดทรงตัวหลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชะลอ ขณะที่นักลงทุนหันไปโฟกัสงบฯ Q1/64 กลุ่มที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดี สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาด ตลาดยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศชะลอตัว
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว ในช่วงแรกดัชนีฯ ติดลบไปบ้าง แต่ต่อมาสามารถพลิกขึ้นมาแกว่งในแดนบวกได้ หลังจากภาครัฐมีมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และพื้นที่สีแดง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศวันนี้เริ่มชะลอลงมาบ้าง แม้จะยังอยู่ในระดับสูง ช่วยลดความกังวลไปได้ในระยะสั้น
นอกจากนี้ ตลาดหันไปโฟกัสผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 ซึ่งเช้านี้หุ้นที่ขึ้นนำตลาดเป็นหุ้นที่คาดว่างบจะออกมาดี อย่างกลุ่มปิโตรเคมี ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไฟแนนซ์ รวมถึงหุ้น SCC ขณะที่หุ้นที่กดดันตลาดเป็นกลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยว หลังได้รับผลกระทบจากการระงับกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามมาตรการคุมเข้มของภาครัฐ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวบวกราว 0.5% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกราว 0.1% หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะตัวเลขภาคการผลิต และคาดหวังผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ต่างรอดูมุมมองของเฟด ส่วนการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ คงจะมีอัตราไม่มากนัก
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,553.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.23 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.01% มูลค่าการซื้อขายราว 43,754 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อหลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศชะลอตัว
