กลุ่มศรีสวัสดิ์ ประกาศรุกธุรกิจครบวงจร พร้อมรับมือกับการแข่งขันทุกรูปแบบ ชูจุดแข็งการมีฐานทุนและพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ปูพรมขยายฐานลูกค้าผ่าน 5 พันสาขาทั่วประเทศ ส่วนการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ไม่กระทบแผนการขยายธุรกิจ พร้อมดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ยืนเป้าหมายปีนี้เติบโต 20% ขณะที่ผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 1.80 บาท
น.ส.ดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มศรีสวัสดิ์มีความพร้อมในการรุกธุรกิจครบวงจร และพร้อมรับมือกับการแข่งขันทุกรูปแบบ ทั้งนี้ จุดแข็งของ SAWAD คือการมีฐานทุนและพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยธุรกิจจำนำทะเบียนรถยนต์ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทลูกและเครือข่าย 5,000 สาขาทั่วประเทศ ส่วนธุรกิจจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ผ่านบริษัทเงินสดทันใจ จำกัด (FM) ที่ร่วมหุ้นกับธนาคารออมสิน
ขณะที่ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ดำเนินธุรกิจโดยบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จำกัด (SWP) มีบริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมทุนถือหุ้น 20%
ธุรกิจเช่าซื้อ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด (SCAP) ล่าสุด SCAP เข้าไปถือหุ้นบริษัทเอส ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์สัดส่วน 90% ถือเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้แก่ SCAP ในการให้บริการสินเชื่อแบบครบวงจร
“ปัจจุบัน SAWAD มีความพร้อมรับมือต่อการแข่งขันทุกรูปแบบ เรามีพันธมิตรที่แข็งแกร่งในทุกธุรกิจ มีสาขารองรับการบริการร่วม 5 พันสาขาทั่วประเทศ ฐานเงินทุนมีความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ก็ยังมีรายได้อื่นๆ จากธุรกิจนายหน้าขายประกันที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ถือว่าเรามีความพร้อมมากในการขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศในทุกธุรกิจ” น.ส.ดวงใจ กล่าว
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ กลุ่มศรีสวัสดิ์พร้อมให้ความช่วยเหลือและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานหรือฐานะการเงินของบริษัทแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันบริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีวงเงินกู้ 5,000-6,000 ล้านบาท พร้อมที่จะนำมาปล่อยกู้เสริมสภาพคล่องและบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกค้า อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทยังมั่นใจว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ว่ารายได้และพอร์ตลูกหนี้จะเติบโต 20%
ล่าสุด ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลจากผลประกอบการปี 2563 และกำไรสะสม โดยจะจ่ายเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นมูลค่ารวม 2,472 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราที่จ่ายปันผลต่อหุ้น 1.80 บาท โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD ที่ 5 พ.ค.2564 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 21 พ.ค.2564