xs
xsm
sm
md
lg

เคทีซีแจ้งกำไรไตรมาสแรก 1,634 ล้าน ลดลง 0.4% คุมเข้มคุณภาพหนี้-เอ็นพีแอล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




เคทีซีชี้ไตรมาส 1/2564 กำไรสุทธิ 1,634 ล้านบาท ขยายตัว 23.6% จากไตรมาส 4/2563 ภายใต้สถานการณ์ที่มีปัจจัยผันแปรสูง คุมเข้มค่าใช้จ่าย คุณภาพพอร์ตของลูกหนี้และ NPL ให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจและรับความเสี่ยงได้ พร้อมเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้แก่พอร์ตลูกหนี้ธุรกิจหลัก ทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลครบวงจร

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC)
กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 เคทีซีมีกำไรสุทธิ 1,634 ล้านบาท ขยายตัว 23.6% จากไตรมาส 4/2563 และใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2563 ที่ 1,641 ล้านบาท (ลดลง -0.4%) ยอดเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 86,854 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) 1.9% จากไตรมาส 4/2563 ที่อยู่ในระดับ 1.8% ผลจากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลง มีฐานสมาชิกรวม 3.4 ล้านบัญชี แบ่งเป็นพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิต 2,544,635 บัตร เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 57,393 ล้านบาท NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.4% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเท่ากับ 48,420 ล้านบาท พอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซีเท่ากับ 809,981 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม 29,461 ล้านบาท NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.9%

ทั้งนี้ ไตรมาส 1/2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,320 ล้านบาท ลดลง -6.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563 จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการใช้จ่าย และมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการลดเพดานดอกเบี้ยทั้งธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ทำให้บริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ยรวมที่ 3,357 ล้านบาท ลดลง -7.1% แบ่งเป็นรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจบัตรเครดิต 1,604 ล้านบาท และธุรกิจสินเชื่อบุคคล 1,753 ล้านบาท ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมมีมูลค่า 1,082 ล้านบาท ลดลง -8.6% จากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมในการเบิกเงินสดล่วงหน้า รายได้ค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้ รายได้ค่าธรรมเนียม Interchange Fee และรายได้ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ลดลง ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมที่เคทีซีได้รับจากร้านค้าผู้รับชำระบัตรเพิ่มขึ้น 3.5%

ด้านค่าใช้จ่ายรวมให้อยู่ที่ 3,281 ล้านบาท ลดลง -9.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของ 3 ค่าใช้จ่ายหลักคือ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม -11.2% ผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้น -8.0% และต้นทุนทางการเงิน -7.6% อีกทั้งยังมีรายได้หนี้สูญรับคืนอยู่ที่ 834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ไตรมาสแรกนี้ บริษัทฯ มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมลดลงเล็กน้อย เป็นผลให้กำไรสุทธิของบริษัทใกล้เคียงเดิม

ด้านภาพรวมของอุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในช่วงต้นปี 2564 ยังคงเติบโตเล็กน้อย ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอน และการลดเพดานอัตราดอกเบี้ย โดยเคทีซีมีสัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตเทียบกับอุตสาหกรรมสำหรับ 2 เดือนแรกของปี 2564 เท่ากับ 13.6% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ลูกหนี้บัตรเครดิตขยายตัวที่ 3.7% มากกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 0.8% และมีสัดส่วนของลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเทียบกับอุตสาหกรรมเท่ากับ 5.0%

ส่วนการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เรื่อยมา และจะขยายเวลาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 โดยปัจจุบันลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือมียอดหนี้คงเหลือเท่ากับ 1,169 ล้านบาท (16,066 บัญชี)

**ปลื้มทริสเพิ่มอันดับเครดิต
“เป็นเรื่องน่ายินดีที่บริษัท ทริส เรตติ้ง จำกัด ได้ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตของเคทีซีเป็น AA- จาก A+ เมื่อต้นเดือนเมษายน 2564 ซึ่งจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งด้านการจัดหาเงินทุนให้บริษัทฯ สามารถรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ใหม่ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงได้อีก โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) เท่ากับ 23,260 ล้านบาท มีต้นทุนการเงินอยู่ที่ 2.64% อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.43 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า” นายระเฑียร กล่าวเสริม
กำลังโหลดความคิดเห็น