นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5-10% หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,315 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,294.07 ล้านบาท โดยมองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในปีนี้จะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยคาดการณ์ว่ามูลค่างานโครงการก่อสร้างรวมในอุตสาหกรรมที่ทยอยออกมาในปีนี้จะสูงถึง 1,281,420 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 843,763 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทยังคงมีคำสั่งซื้อทั้งจากรายใหม่ และรายเก่าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในทุกๆผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นท่อร้อยสายไฟฟ้า (Electrical Conduit) ท่อร้อยไฟ (EMT/IMC/RSC) ท่อร้อยสายไฟแบบอ่อน (FMC) ท่ออ่อนกันน้ำร้อยสายไฟ (LFMC) ท่อน้ำประปา (PP-R) ท่อระบายอาศ ท่อสำรับงานก่อสร้าง และท่อสายไฟฟ้าใต้ดิน (RTRC) เป็นต้น ตามการขยายตัวจากโครงการลงทุนทั้งส่วนงานโครงการภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และภาคอุตสาหกรรม
ปัจจุบัน บริษัทตุนงานในมือ (Backlog) ไว้ราว 1,200 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เป็น 70% ของมูลค่างานทั้งหมด โดยในปีนี้บริษัทยังคงต้องติดตามราคาต้นทุนหลักอย่างวัตถุดิบเหล็กที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทจะพยายามหาวัตถุดิบที่จะเข้ามาทดแทนเพื่อที่จะให้มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ดี และเพื่อที่จะบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิให้ไม่ต่ำกว่า 15-20% และ 10% ตามลำดับ จากปีก่อนที่ทำได้ 28.42% และ 12.91% ตามลำดับ
นายธานินทร์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนลงทุนติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) มูลค่าลงทุนราว 30 ล้านบาท เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ในขณะเดียวกัน ยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อีกด้วย คาดว่าใช้ระยะเวลาราว 6-7 ปีจะถึงจุดคุ้มทุน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งคาดแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.64 นอกจากนี้ บริษัทจะมีการลงทุนสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ในการทำ Pipe Jacking มูลค่าราว 3 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน ก.ย.64 เป็นต้นไป