xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโผ 8 หุ้น mai น่าลงทุน งบสวย-เงินสดแกร่ง-ราคาถูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บล.หยวนต้า ประเมินกำไรหุ้น mai ปีนี้โต 50% แตะ 5 พันล้านบาท พร้อมเปิดลิสต์ 8 หุ้นน่าเก็งกำไร เหตุแนวโน้มงบ Q1/64 แจ่ม เงินสดแกร่ง ได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก. และมูลค่ายังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการ Q1/64 ของหุ้นในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) ว่า จากผลประกอบการ Q4/63 ที่ประกาศออกมาพบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่กำไรสุทธิโตดีทั้ง QoQ และ YoY คือ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ขนส่งและโลจิสติกส์ การเงิน และสินค้าอุปโภคบริโภค   

โดยช่วงต้นปีนี้หลายกลุ่มโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคถูกกดดันจากการระบาดของ โควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้คาดกำไรสุทธิ Q1/64 โดยภาพรวมจะชะลอ QoQ จากฐานที่สูง แต่เมื่อเทียบ YoY คาดว่าจะเติบโตจากฐานที่ต่ำผิดปกติใน Q1/63 เนื่องจากหลายบริษัทในกลุ่มผู้ส่งออกเริ่มถูกกระทบจากโควิด-19 ที่ระบาดในจีน

คาดกำไรทั้งปีนี้โตประมาณ 50% อยู่ที่ 5 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากมองภาพทั้งปี 64 ประเมินกำไรสุทธิของ mai จะกลับมาโตราว 50% YoY อยู่ที่ 5 พันล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 6.90 บาท ซึ่งที่ระดับดัชนีปัจจุบันคิดเป็น PER2564 สูงราว 62 เท่า ส่วน PBV2564 จะอยู่ที่ 1.78 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 2.04 เท่า ยังพอมี Upside ในเชิง Valuation อยู่อีกราว 15%

ทั้งนี้ การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบกับ SET INDEX โดยอิง Index ratio ระหว่าง mai : SET ที่ 0.28 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 0.33 เท่า และ Spread PBV ระหว่าง mai : SET ที่ 0.37 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 0.86 เท่า สะท้อนว่าหุ้นใน mai ที่กำลัง Outperform ตลาดในช่วงนี้ยังมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะสั้นเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่

แนะนำกลยุทธ์ลงทุน 3 เดือนข้างหน้า ซื้อเก็งกำไร

ด้วยการปรับขึ้นอย่างรวดเร็วของหุ้น mai ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้หุ้น Top Pick ในช่วงครึ่งปีหลัง 63 ที่เคยแนะนำเหลือ Upside น้อยลง สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้า แนะนำให้ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้นที่

(1) ผลประกอบการ Q1/64 มีแนวโน้มโต QoQ หรือ YoY

(2) กระแสเงินสดจากการดำเนินงานแข็งแกร่ง

(3) อยู่ในอุตสาหกรรมที่ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

(4) Valuation ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าหรือใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่งได้แก่

ทั้งนี้ กำไรสุทธิ Q4/63 ของบริษัทจดทะเบียนใน mai อยู่ที่ 1,412 ล้านบาท ลดลง -23.92% QoQ, แต่โต 22.24% YoY ขณะที่รายได้อยู่ที่ 48,737 ล้านบาท โต 956% QoQ, แต่ลดลง -8.23 % YoY ทั้งนี้ กำไรสุทธิของทั้งปี 63 อยู่ที่ 3,506 ล้านบาท ลดลง 65.54 % YoY

บริษัทที่กำไรสุทธิ Q4/63 โตแรงทั้ง QoQ และ YoY คือ TACC, BIZ, NPK, AF, LIT, COLOR, CPR, KUMWEL, PDG, PJW, TMI, UKEM, CMC, FLOYD, KUN, PSTC, AKP, ETE, IMH, QLT, SE, SONIC, TNDT, TNP, VL, NETBAY, SPVI, TPS

ส่วนบริษัทที่กำไรสุทธิ Q4/63 โตเด่น YoY คือ JUBILE, MITSIB, 2S, ADB, BM, PIMO, SELIC, TAPAC, TPLAS, YUANSA, ZIGA, STI, TAKUNI, ARIP, BOL

บริษัทที่กำไรสุทธิ Q4/63 ลดลงทั้ง QoQ และ YoY คือ TMILL, ECF, IP, TM, FPI, MBAX, MGT, SWC, TMW, UBIS, UEC, ARROW, CAZ, SAAM, A5, AMA, ATP30, FSMART, KIAT, TNH, APP, COMAN, ICN


กำลังโหลดความคิดเห็น