คนในตลาดยังไม่หาย “ช็อก” กับข่าว ครม.เห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพราะหนึ่งในรายชื่อผู่ที่ได้รับการแต่งตั้งมีมลทินคดีปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ติดตัวอยู่
บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งมี 3 คนประกอบด้วย นายอมร มีมะโน นายภูวิช ปัญญาสิทธิ์ และนายสมชาย สาโรวาท โดยดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2564
ไม่รู้ว่าเป็นความผิดพลาด ความสะเพร่าของกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง หรือเป็นเพราะ มาตรฐานทางด้านจริยธรรมทางการเมืองของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต่ำ จึงทำให้นักปั่นหุ้นที่ยังมีคดีติดตัวได้ตำแหน่งทางการเมือง
นายอมร เป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJD ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA
ส่วนนายภูวิช เป็นเจ้าของ หนังสือพิมพ์ โปลิสนิวส์ และเคยเป็นกรรมการตรวจสอบ AJA โดยอยู่ในกลุ่มนายอมร ส่วนนายสมชาย ไม่รู้ว่าร่วมก๊วนนายอมร ด้วยหรือไม่
เมื่อปลายปี 2561 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกล่าวโทษนายอมร และพวกราม 40 คน ในความผิดสร้างราคาหุ้น หรือปั่นหุ้น AJD (ชื่อเดิม) โดยพฤติกรรมความผิดเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคมถึง 8 ตุลาคม 2557 รวม 100 วันทำการ
ราคาหุ้น AJD ถูกปั่นราคาหุ้นจาก 2.60 บาท พุ่งขึ้นไปถึง 15 บาท โดยการปั่นหุ้น เกิดขึ้นภายหลังจากหุ้น AJD เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้เพียง 3 เดือน
ก.ล.ต.ดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งแก๊งนายอมร โดยสั่งปรับรวมเป็นเงิน 1,727.38 ล้านบาท ซึ่งเป็นโทษปรับที่มีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งขึ้นบัญชีนายอมร ห้ามเป็นผู้บริหารบริษัทในตลาดทุน 3 ปี
แต่ นายอมร และพวกไม่ยอมจ่ายค่าปรับ ซึ่ง ก.ล.ต.ได้ส่งเรื่องให้อัยการดำเนินการสั่งฟ้องบังคับชำระค่าปรับ โดยฟ้องเรียกชำระค่าปรับในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด ในวงเงิน 2,303.06 ล้านบาท ตั้งแต่ประมาณกลางปี 2562 และ ยังไม่มีข่าวคืบหน้าใดๆ ในคดีนี้
อย่างไรก็ตาม คดีปั่นหุ้น AJA จะตัดตอนหรือเป่าคดีไม่ได้ เพราะถ้าอัยการสั่งไม่ฟ้อง ก.ล.ต.ก็สามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้ด้วยตัวเอง และไม่มีเหตุผลที่ ก.ล.ต.จะไม่สั่งฟ้อง เพราะตรวจสอบ รวบรวมข้อมูลหลักฐาน และดำเนินการลงโทษมาตั้งแต่แรก
การที่นายอมร ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่คำถามคือ พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยให้เรื่องที่สร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนเกิดขึ้นได้อย่างไร
ปล่อยให้นักปั่นหุ้นที่มีมลทินติดตัว และคดียังไม่เป็นที่สิ้นสุด มีตำแหน่งทางการเมืองได้อย่างไร
หุ้น AJA ปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 15 สตางค์ จากที่เคยถูกปั่นหุ้นไป 15 บาท และมีนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นอยู่กว่า 8,000 คน ซึ่งทั้งหมดน่าจะเสียหายหนักจากหุ้นตัวนี้ เพราะอาจเข้ามาซื้อในช่วงที่มีการปั่น
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ก.ล.ต. ได้ทำหน้าที่ในการปกป้องนักลงทุนในตลาดหุ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยตรวจสอบ รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีต่อ นายอมร และพวกฐานปั่นหุ้น และสร้างความเสียหายให้นักลงทุน
การขึ้นบัญชีดำเป็นเวลา 3 ปี เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า นายอมร ไม่มีคุณสมบัติ และไม่มีความน่าเชื่อถือที่จะเป็นผู้บริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
แต่การที่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งนายอมร ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง เป็นการตบหน้า ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ เป็นการทำลายความพยายามในการกำกับดูแลให้การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบ ไม่มีคนโกง ไม่มีอาชญากรที่จะสร้างความเสียหายให้นักลงทุน
ทุกภาคส่วนในตลาดหุ้นพยายามรณรงค์เรื่องธรรมาภิบาล สร้างมาตรการลงโทษทางสังคม โดยผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนใดใช้ข้อมูลภายใน หรืออินไซเดอร์เอาเปรียบนักลงทุน หรือปั่นหุ้น นักลงทุนสถาบันได้ลงสัตยาบันร่วมกันจะไม่เข้าลงทุนในบริษัทจดทะเบียนแห่งนั้น
ขณะที่ ก.ล.ต.จะขึ้นบัญชีดำลงโทษโดยห้ามเป็นผู้บริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
การที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งนายอมรดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นการตอกย้ำว่าสำนึกในมาตรฐานด้านธรรมาภิบาลทางการเมืองของรัฐบาลชุดนี้ต่ำจริงๆ ต่ำกว่าภาคเอกชนในตลาดหุ้นเสียอีก
ต่ำจนไม่อายที่จะช่วยฟอกตัวให้นักปั่นหุ้น
คำถามที่คนในตลาดหุ้นกำลังสงสัยอยู่คือ คดีปั่นหุ้น AJA ที่มีนักลงทุนรายย่อยตาดำๆ เสียหายเกือบ 1 หมื่นราย จะถูก “เป่า” เหมือนคดีปั่นหุ้นกรณีอื่นๆ ที่นักปั่นหุ้นวิ่งเต้นผู้มีอำนาจจนหลุดคดีหรือไม่