ถือว่าเป็นกระแสแรงติดลมบนสำหรับมหาเศรษฐีตัวพ่ออย่าง Elon Musk ที่เป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Tesla, Inc. และ SpaceX บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและผู้พัฒนานวัตกรรมด้านอวกาศและเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ซึ่งพักหลังๆมานี้ Elon Musk ดูเหมือนจะหันไปเอาดีด้านการเก็งกำไรเหรียญคริปโต จากการที่ตนเองเป็นคนดังที่มีกระแสร้อนแรงและเป็นบุคคลสาธารณะที่ทั่วโลกจับตามอง
ล่าสุด Elon Musk ได้มีการโพสทวิตสั้นๆถึง “Shiba Inu” ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตในระบบบล็อกเชน โดยหลังจากที่อีลอน มัสก์ โพสทวิตได้ไม่นาน ราคาเหรียญดังกล่าวก็พุ่งขึ้นไปกว่า 300% โดยก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีเขาได้โพสต์ในทวิตเตอร์ถึงเหรียญ Dogecoin หรือ DOGE ก็ทำให้ราคาพุ่งแรงทะลุเพดานสร้างสถิติใหม่ไปครั้งนึงแล้ว
อย่างไรก็ตาม Elon Musk ได้ให้รายละเอียดถึงที่มาของ “Shiba Inu” ในโพสต์นั้นว่า เขาได้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ "ชิบะอินุ" ไว้ที่บ้าน ซึ่งสุนัขสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่หนึ่งในสองสายพันธุ์ของญึ่ปุ่นคือ ชิบะ อินุ (มีขนาดตัวเล็ก) และอากิตะ อินุ ซึ่ง มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า และนอกจากนี้ ยังถือได้ว่าเป็นมีมที่สร้างสีสรรให้กับวงการเหรียญคริปโต ที่มักมีการหยิบยกมาล้อเลียนสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกันอยู่บ่อยครั้ง จากการเป็นศูนย์กลางของ meme ยอดนิยมของ Dogecoin
ขณะเดียวกันแม้ว่าทวีตของ Elon Musk น่าจะมีส่วนทำให้ราคา DOGE แตะระดับสูงสุดตลอดกาลมากกว่า 0.08 ดอลลาร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ราคา Token กลับตรงกันข้ามเพราะดูเหมือนจะไม่เคลื่อนไหวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่การโพสทวีตถึงสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของซีอีโอของ Tesla แต่ราคาโทเค็น Shiba Inu (SHIB) กลับพุ่งขึ้นแทนกว่า +300% ทำให้เป็นที่ชอบอกชอบใจของนักลงทุนที่ถือเหรียญ Shiba Inu หรือ SHIB เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามแม้ว่านายอีลอน มัสก์ จะโพสต์แสดงความเห็นส่วนตัว บนโซเชียลมีเดียที่เป็นสื่อสาธารณะ แต่จากการที่เขาเป็นผู้บริหารหลักของบริษัท Tesla, Inc. ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐ กลับถูกหลายฝ้ายมองว่าเป็นการกระทำที่ผิดธรรมมาภิบาลการดำเนินธุรกิจ และส่งผลต่อราคาหุ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้ ในปี 2018 ก.ล.ต. สหรัฐเคยยื่นฟ้องมัสก์ในข้อหาฉ้อโกงหลักทรัพย์โดยการทวีตให้ข้อมูลเท็จ ซึ่งตอนนั้นมัสก์ทวีตถึงเงินทุนที่มากเกินไป กว่าความเป็นจริงซึ่งเข้าข่ายปั่นหุ้นจนทำให้นักลงทุนเข้าใจผิด โดยผู้พิพากษาแห่งเมืองซานฟรานซิสโกกล่าวว่าทวีตในปี 2018 ของมัสก์ถือเป็นการหลอกลวงผู้ถือหุ้นโดยเจตนา ซึ่งคดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ในส่วนขอ ศจ. นูรีล รูบีนี หรือ ดร. ดูม เชื่อว่าการที่นายอีลอน มัสก์ เป็นผู้ปั่นราคานายอีลอน มัสก์ตัวพ่อ เพื่อฉวยโอกาสช้อนซื้อเหรียญบิทคอยน์ในช่วงที่ราคาปรับตัวลง โดย ดร. ดูม กล่าวถึงการกระทำของนายมัสก์ว่าเป็นการปั่นราคาในตลาด และเขาเห็นด้วยที่ SEC จะเรียกนายมัสก์มาเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยก่อนหน้านี้หน่วยงานกำกับดูแลอาจดำเนินการตรวจสอบกรณีที่ นายอีลอน มัสก์ ทวิตว่าเขาได้ทุ่มเงินมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเข้าซื้อบิทคอยน์ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจาก ก.ล.ต. สหรัฐพบว่าก่อนหน้านี้บริษัท Tesla ได้ลงทุนซื้อบิทคอยน์ไปเป็นจำนวนมากเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประกอบกับมีการทวีตข้อความเกี่ยวกับบิทคอยน์ และมีการประกาศว่าบริษัทได้ลงทุนในบิทคอยน์รวมเป็นมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์และจะรับชำระค่าสินค้าด้วยบิทคอยน์ในอนาคต
ทั้งนี้เมื่อปี 2561 นาย อีลอน มัสก์ เคยถูก ก.ล.ต. สหรัฐ ฟ้องร้องด้วยข้อกล่าวหาการฉ้อโกงหลักทรัพย์ ซึ่งเกี่ยวโยงกับการทวีตข้อความเกี่ยวกับบริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเขา โดยท้ายที่สุดนายอีลอน มัสก์ และบริษัท Tesla ได้ยินยอมที่จะจ่ายค่าปรับคิดเป็นเงิน 40 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ใช่ว่าจะเข็ด เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้กลับมาทวิตขอความด้วยเนื้อหาที่มีนัยยะที่ส่งผลต่อราคาหุ้นและฝ่าฝืนกฏข้อห้ามที่ตกลงไว้กับ ก.ล.ต.สหรัฐ ทำให้ ทางหน่วยงานกำกับดูแลต้องดำเนินการฟ้องร้องอีกครั้งด้วยข้อหาละเมิดต่อข้อตกลงที่ได้กระทำไว้