xs
xsm
sm
md
lg

เอพีฯ ผุดโปรเจกต์ “ORIGINAL U” ขยายเมล็ดพันธุ์ Innovator

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุพงษ์ อัศวโภคิน
“เอพี ไทยแลนด์” ประกาศความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ชูยุทธศาสตร์ INNOVATIVE CULTURE เร่งติดสปีดขยายเมล็ดพันธุ์ Innovator สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมให้เกิดขึ้นแก่คนทุกระดับ ผ่านโปรเจกต์ ORIGINAL U นำร่องตั้งดรีมทีมแบบไฮบริด ดึงพนักงานต่างแผนก บริษัทในเครือและพันธมิตรธุรกิจ ปลดล็อกศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ร่วมกันพัฒนานวัตกรรม

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพราะทีมงานคือคนที่รู้จักและเข้าใจลูกค้าดีที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยังคงต้องวนเวียนอยู่กับสภาวะความปั่นป่วนจากการเปลี่ยนแปลงโลกครั้งใหญ่ ทั้งความท้าทายการแข่งขันใหม่ๆ ตลอดจนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิม เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าสู่การดำเนินธุรกิจในปีที่ 30 อย่างยั่งยืน ภายใต้พันธกิจใหญ่ EMPOWER LIVING เราไม่หยุดที่จะสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน โดยมียุทธศาสตร์ INNOVATIVE CULTURE เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่จะสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมให้เกิดขึ้นแก่คนทุกระดับ นำร่องแรกกับโปรเจกต์พิเศษ ORIGINAL U ขยายเมล็ดพันธุ์ Innovator ในองค์กร ผ่านโมเดลการตั้งดรีมทีมแบบไฮบริด ดึงพนักงานต่างแผนก บริษัทในเครือและพันธมิตรธุรกิจ ปลดล็อกศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมเพื่อการยืนหยัดอย่างมั่นคงในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง พร้อมแสวงหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจในเวลาเดียวกัน
 
สำหรับโปรเจกต์นำร่องพิเศษ ORIGINAL U เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวัฒนธรรมการทำงาน ที่พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมให้เกิดขึ้นแก่คนทุกระดับในองค์กร ให้ทีมงานกล้าตั้งคำถาม ไม่หยุดคิดนอกกรอบตามหลักการของ Design Thinking ที่เชื่อว่าทุกคนเป็นนักคิด นักสร้างสรรค์ได้ ถ้าได้เรียนรู้การคิดวิเคราะห์อย่างมีกระบวนการ ดังนั้นยุทธศาสตร์ Innovative Culture หรือสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมในแบบฉบับของเอพี จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การ “ฝันถึงสิ่งใหม่ ที่ยิ่งใหญ่” เท่านั้น แต่นวัตกรรมที่มีคุณค่าที่สุด คือสิ่งที่สามารถตอบ “Unmet Need” หรือ “ความต้องการที่ซ่อนอยู่” ของลูกค้าได้ ผสานกับการประยุกต์ใช้โมเดลดรีมทีมแบบไฮบริด จัดตั้งทีมตั้งแต่ 3-5 คนที่มาจากต่างฝ่ายงาน รวมถึงดึงความร่วมมือจากพันธมิตรธุรกิจ มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ (บริษัท ในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป) และบริษัททั้ง 5 ในเครือเอพี ได้แก่ SMART (สมาร์ท) BC (บีซี) SEAC (เอสอีเอซี) VAARI (วาริ) และ CLAYMORE (เคลย์มอร์) เพื่อสร้างสรรค์โปรเจกต์ได้อย่างอิสระ ภายในระยะเวลา 2 เดือน ให้เกิดผลลัพธ์นวัตกรรมการทำงาน ไอเดียใหม่หรือสินค้าบริการที่ดีกว่าที่เคยมีมา โดยมีเป้าหมายสำคัญเดียวกัน คือ การเป็นผู้สร้างและจัดหาสินค้าบริการที่เกื้อหนุนให้ลูกค้าสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตที่ดีในแบบที่ต้องการด้วยตนเอง


“หากเราไม่เอ็มเพาเวอร์ให้ทุกคนในองค์กรลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงและกล้าที่จะตั้งคำถามด้วยตนเองเราคงก้าวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันที่เข้ามา เอพีมองว่าการปรับตัวโดยมีหลักและเป้าหมายให้ยึดคือหนทางที่จะทำให้เราทุกคนเดินหน้าและก้าวไปต่อได้อย่างมั่นคง และโปรเจกต์ ORIGINAL U จะเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยปลูกฝังและผลักดันให้เกิดขึ้นผ่านการร่วมมือของพนักงานที่มีทักษะความเชี่ยวชาญจากหลากหลายฝ่าย”

นายอนุพงษ์ กล่าวว่า “ทุกวันนี้ความเชี่ยวชาญในสาขาเดียวไม่พออีกต่อไปซึ่งเป็นการตอกย้ำค่านิยมหลักของเอพี BE INNOVATIVE สร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าเดิมและ BUILD TOGETHER การทำงานเป็นทีมโดยอาศัยมุมมองที่แตกต่างจากเพื่อนร่วมงานที่มาจากสายงานอื่นๆ จะช่วยให้เราพร้อมสร้างสรรค์สินค้าบริการที่มีคุณค่าก้าวนำความเปลี่ยนแปลงตรงตามความต้องการและเหนือความคาดหวังของลูกค้าได้ในอนาคต ซึ่งมั่นใจว่าโปรเจกต์ ORIGINAL U นี้จะเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์เพื่อสร้างและขยายเมล็ดพันธุ์ Innovator ตัวจริงในองค์กรที่จะร่วมนำพาองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า ก้าวนำคลื่นความปั่นป่วนผันผวนที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะต้องก้าวผ่านอีกกี่วิกฤตก็ตาม โดยโปรเจกต์ ORIGINAL U ช่วยยกระดับคุณค่าและคุณภาพการทำงานเพื่อส่งมอบนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมายสู่ผู้บริโภค

เรียว มัตสึโมโตะ
นายเรียว มัตสึโมโตะ Business Advisor พันธมิตรทางธุรกิจชาวญี่ปุ่นหนึ่งในตัวแทนโปรเจกต์ ORIGINAL U กล่าวว่า "ในฐานะตัวแทนจากมิตซูบิชิเอสเตทเรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิเอสเตท กรุ๊ป) พาร์ตเนอร์ของเอพีที่มีเป้าหมายในการแบ่งปันองค์ความรู้ที่ดีระหว่างไทยและญี่ปุ่นที่เข้าร่วมโปรเจกต์นี้เพราะนับเป็นโอกาสที่ดีและท้าทายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการรวมทีมทำงานเพื่อค้นหาไอเดียใหม่ๆ กับสมาชิกต่างแผนกที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นอกเหนือการเข้าใจไลฟ์สไตล์การใช้งานพื้นที่ส่วนกลางในคอนโดที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 แล้ว การรวมตัวกันของทีมแบบไฮบริด (วิศวกรโปรดักต์ดีไซเนอร์และพร็อพเพอร์ตี้ เมเนจเมนท์) ที่ต่างฝ่ายต่างมีประสบการณ์และองค์ความรู้ที่แตกต่างกันทำให้เกิดความคิดเห็นหลากหลายมองเห็นปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าอย่างครบถ้วนรอบด้านยิ่งขึ้น และร่วมกันตั้งคำถามคิดวิเคราะห์ใช้เวลาร่วมกันในการนำเสนอโซลูชันเพื่อแก้ pain points นั้นๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นมิติใหม่ของการการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางในคอนโดมิเนียมซึ่งจะนำไปประยุกต์ใช้กับการเปิดตัวโครงการใหม่อยากชวนให้ติดตามกัน"


น.ส.สปัญญ์ ปาลีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจหนึ่งในผู้ร่วมโปรเจกต์ ORIGINAL U จากบริษัทสมาร์ทเซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SMART) หนึ่งในบริษัทเครือเอพีที่ให้บริการด้านการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์กล่าวถึงความรู้สึกหลังเข้าร่วมกิจกรรมว่า "ไอเดียของทุกทีมเป็นการสร้างสรรค์ที่เกิดจากความเข้าใจ pain points ที่จะช่วยยกระดับวิถีชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น ORIGINAL U เข้ามาทำให้เรามองหา pain points ของลูกค้าได้แม่นยำขึ้นครอบคลุมทั้งในส่วนของพนักงานและผู้อยู่อาศัย เช่น โซลูชันในการลดขั้นตอนข้อผิดพลาดการบริหารจัดสรรพื้นที่การทำงานของพนักงาน ไปจนถึงโซลูชันการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในคอนโดเพื่อแก้ไขข้อจำกัดด้านการใช้ประโยชน์จากพื้นที่"

“วิกฤตครั้งนี้ไม่ใช่วิกฤตแรกหรือสุดท้ายที่เราต้องผ่านไปให้ได้อย่างดีที่สุด ก่อนหน้านี้มีทั้งวิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 แฮมเบอร์เกอร์ ปี 51 และปัจจุบันคือวิกฤตไวรัสโควิด-19 เราทุกคนในองค์กรต้องมีความพร้อมและมองไกลไปข้างหน้าเหนือวิกฤตอย่างสร้างสรรค์ ORIGINAL U จะเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ช่วยสร้าง และผลักดันให้เกิด Innovator หน้าใหม่ในเอพีเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเอพีไทยแลนด์บริษัทในเครือ รวมถึงพันธมิตรธุรกิจของเราพร้อมที่จะส่งมอบสินค้าบริการที่ก้าวนำทุกคลื่นความเปลี่ยนแปลงได้ เราทุกคนต้องไม่หยุดพัฒนา ก้าวไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายเดียวกันด้วยใจที่มุ่งมั่นที่จะส่งมอบสินค้าหรือบริการที่เกื้อหนุนให้ลูกค้าสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตที่ดีในแบบที่ต้องการด้วยตนเองตามเจตจำนง EMPOWER LIVING ที่ได้กำหนดไว้" นายอนุพงษ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น