การประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายหุ้น หลังผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินปี 2563 เป็นการตอกย้ำถึงอนาคตอันมืดมนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI
ตลาดหลักทรัพย์สั่งพักการซื้อขายหุ้น THAI ตั้งแต่เช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะพิจารณาว่า บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนภายใน 7 วัน เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์
THAI แจ้งงบการเงินก่อนเปิดการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 141,170.74 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 12,042.41 ล้านบาท มียอดขาดทุนสะสม 161,898.33 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ 128,742.49 ล้านบาท
การที่ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องขึ้นเครื่องหมาย SP สั่งพักการซื้อขายหุ้นในทันที จนกว่า THAI จะแก้ปัญหาส่วนของผู้ถือหุ้นได้ และหากพิจารณาว่าบริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน อาจเปิดให้มีการซื้อขายหุ้นชั่วคราว 1 เดือน ก่อนพักการซื้อขายยาว
THAI มีปัญหาด้านผลประกอบการมาหลายปี และถูกซ้ำเติมด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อต้นปี 2563 จนเกิดปัญหาด้านฐานะทางการเงิน ต้องยื่นต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อฟื้นฟูกิจการ
แม้ว่า THAI จะมีมรสุมรอบด้าน และมองไม่เห็นแนวทางการฟื้นฟูกิจการ แต่ราคาหุ้นกลับไม่ได้ดิ่งลงก้นเหวเสียทีเดียว เพราะยังมีแรงซื้อเข้ามาในบางช่วง โดยใน 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาเคยต่ำสุดที่ 2.74 บาท แต่ก็มีการไล่ราคาไปสูงสุดที่ 7.85 บาท/หุ้น ล่าสุดก่อนถูกพักการซื้อขายหุ้น THAI ปิดที่ 4.08 บาท/หุ้น
แม้ไม่อาจคาดหมายอนาคตได้ และแม้ไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่จะวิเคราะห์ความเหมาะสมของราคาหุ้น แต่มีนักวิเคราะห์หรือนักเชียร์หุ้นหลายคนแนะให้นักลงทุนซื้อหุ้น THAI อยู่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ให้ราคาหุ้นไม่ผันผวน และมูลค่าซื้อขายยังอยู่ในระดับหลายสิบล้านหรือบางวันเคาะซื้อขายกันกว่า 100 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ กูรู หรือเซียนหุ้นคนไหนที่แนะนำหุ้น THAI หลังจากเกิดวิกฤตจนต้องยื่นขอฟื้นฟูกิจการ นักลงทุนควรขึ้นบัญชีดำไว้ อย่าให้ความเชื่อถือ อย่าให้ราคา อย่าร่วมสังฆกรรมหรือคบหาด้วย
เพราะนักวิเคราะห์ที่ดี มีสำนึกในความรับผิดชอบต่อนักลงทุน ไม่ตะบี้ตะบันเชียร์หุ้น จะต้องแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้น THAI
ในทางปัจจัยพื้นฐานไม่สามารถประเมินราคาที่เหมาะสมของหุ้นตัวนี้ได้ ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือวิเคราะห์ด้วยกราฟก็ไม่สามารถนำมาใช้กับหุ้นที่อยู่ในภาวะล้มละลาย และไม่เห็นช่องทางการฟื้นฟูกิจการ
ใครที่เชียร์หุ้น THAI ถ้าไม่มั่ว ก็บ้าไปแล้ว เพราะไม่มีจุดใดให้เชียร์ แม้จะเชียร์ให้เก็งกำไรระยะสั้นก็ตาม
ผู้ถือหุ้นรายย่อย THAI มีจำนวนทั้งสิ้น 110,510 ราย ส่วนใหญ่ติดหุ้นต้นทุนสูงจนทำใจตัดขาดทุนขายไม่ได้ และยังถือหุ้นอยู่ ทั้งที่ควรหาจังหวะขายหุ้นออก เพราะถือต่อไปก็ไม่อาจคาดหวังอนาคตได้
ผลประกอบการปี 2563 ซึ่งขาดทุนกว่า 1.41 แสนล้านบาท ฉุดให้ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน เป็นการส่งสัญญาณเตือนผู้ถือหุ้นอีกครั้งถึงฐานะอันย่ำแย่ของ THAI
ตลาดหลักทรัพย์จะต้องเปิดให้ซื้อขายหุ้น THAI อีกครั้ง ซึ่งการเปิดซื้อขายครั้งต่อไป อาจเป็นโอกาสที่ผู้ถือหุ้นตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย ว่าจะทำอย่างไรกับหุ้น THAI จะขายทิ้งหรือจะฝากความหวังไว้กับอนาคต
ถ้าจะฝากควงามหวังไว้กับอนาคต กัดฟันถือหุ้น THAI ต่อไป ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าสายการบินแห่งนี้ยังมีช่องทางที่จะฟื้นฟูหรือไม่
แต่ถ้าประเมินแล้วสุดท้ายไปไม่รอด คงต้องยอมรับสารภาพ ทำใจตัดขายขาดทุน ราคาเท่าไหร่ก็ขาย ดีกว่าปล่อยให้ใบหุ้น THAI กลายเป็นศูนย์