ตลาดหุ้นอยู่ในอาการทรงๆ ทรุดๆ มาหลายวัน แต่วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยไม่มีสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า ดัชนีหุ้นปักหัวลงอย่างรุนแรง และมีแนวโน้มว่ารอบนี้อาจปรับฐานลงแตะระดับ 1,450 จุด
นักลงทุนรายย่อยซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง และพยุงดัชนีหุ้นไม่ให้หลุดระดับ 1,500 จุด แต่เมื่อวันจันทร์ ต้านแรงขายของนักลงทุนรายใหญ่ไม่ไหว ต้องปล่อยให้ดัชนีหุ้นทรุด 22.37 จุด ลงมายืนที่ระดับ 1,478.14 จุด
นักลงทุนต่างชาติ กองทุนในประเทศและพอร์ตโบรกเกอร์พร้อมใจกันเทขายหุ้น โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้าตกอยู่ในเป้าหมายของการขาย จนกระดานหุ้นแดงฉาน และมีเพียงหุ้นไม่กี่ตัวที่แข็งสวนตลาดเท่านั้น โดยเฉพาะหุ้นใหม่ เช่น บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR
การที่นักลงทุนรายใหญ่เทขายหุ้นออกมาในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดหุ้นขาดข่าวดีกระตุ้น ขณะที่ระดับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาไกลจนทำให้ความน่าสนใจลดลง โดยค่าพี/อี เรโช เฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ขยับเกือบ 30 เท่า ซึ่งถือว่าสูงมาก
พิจารณาจากค่าพี/อี เรโช เฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์แล้ว ถือว่าตลาดหุ้นไทยไม่ถูก และราคาหุ้นแต่ละกลุ่มปรับตัวขึ้นมามาก เมื่อไม่มีปัจจัยกระตุ้นต่อหุ้นจึงเริ่มจะซึม โดยมีลักษณะประคองตัวมาระยะหนึ่งแล้ว
แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะปิดฉากลงแล้ว แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จะลดลง และแม้ “วัคซีน” กำลังเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่ง น่าจะเป็นข่าวเชิงบวกกับตลาดหุ้น แต่นักลงทุนรายใหญ่ทั้ง 3 กลุ่มกลับไม่ขานรับข่าวดี และถล่มหุ้นขายไม่เลิก โดยเฉพาะกองทุนในประเทศ
ระดับราคาหุ้นที่สูงอยู่จูงใจให้นักลงทุนรายใหญ่ชิงโอกาสขายทำกำไร และกดดันให้ดัชนีหุ้นรูดลงอีก โดยแนวรับถัดไปที่นักวิเคราะห์มองกันคือ ระดับ 1,450 จุด แต่ ถ้ามีข่าวร้ายซ้ำเติม หรือต่างชาติถล่มขายหนัก รอบนี้มีสิทธิหลุด 1,450 จุดได้เหมือนกัน
นักลงทุนรายย่อยมองแนวโน้มตลาดหุ้นในมุมที่แตกต่างจากกองทุนต่างชาติและพอร์ตโบรกเกอร์ โดยเชื่อว่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้น จึงเข้ามาไล่ช้อนซื้อหุ้นเก็บ และกลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ โดยปีที่ผ่านมามียอดซื้อหุ้นสุทธิกว่า 2 แสนล้านบาท และในปีนี้ซื้อหุ้นสุทธิแล้ว 49,621.61 ล้านบาท
ถ้าช้อนซื้อแล้วหุ้นขึ้นนักลงทุนรายย่อยจะได้กำไร แต่รายย่อยช้อนซื้อหุ้นตั้งแต่ดัชนีฯ แถว 1,530 จุด และแม้หุ้นจะปรับตัวลงก็ยังซื้อหุ้นอย่างไม่ย่อท้อ จนต้องแบกหุ้นต้นทุนสูง และขาดทุนกันถ้วนหน้า กลายเป็นกลุ่มที่เจ็บหนักในรอบนี้
รายย่อยจะรอดตัวได้หุ้นต้องดีดตัวกลับ แต่แนวโน้มระยะสั้นมองไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาด แต่ มีโอกาสปรับฐานลงอีก โดยต่างชาติและกองทุนอาจปักหลักขายต่อไป นักลงทุนรายย่อยไม่ควรเข้าไปช้อนซื้อ
แต่น่ารอคอยจังหวะให้หุ้นปรับฐานจนสะเด็ดน้ำสียก่อน ซึ่งจะทำให้ช้อนซื้อหุ้นในต้นทุนที่ต่ำกว่า โดย อาจรอจนดัชนีหุ้นลงมาระดับ 1,450 จุด จึงเริ่มทยอยซื้อ เพราะในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ ต่างชาติและกองทุนขายหนัก หากรายย่อยซื้อสวนมีโอกาส “รับเละ” ต้องแบกหุ้นต้นทุนสูงในขาลงรอบนี้