xs
xsm
sm
md
lg

วิลลา คุณาลัย โชว์ยอดขายนิวไฮ รายได้ปี 63 แตะ 800 ล้านบาท ทุบสถิติสูงสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บมจ.วิลลา คุณาลัย หรือ KUN ประกาศข่าวดีตามนัด โชว์งบผลการดำเนินงานปี 63 ทุบสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ กวาดรายได้ 800 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 84.64 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผลผู้ถือหุ้น 0.08 บาทต่อหุ้น จ่อขึ้น XD วันที่ 11 พ.ค.2564 กำหนดจ่าย 24 พ.ค.2564 ด้าน CEO “ประวีรัตน์ เทวอักษร” เดินเกมรุกประกาศเจาะตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบบนทำเลรอบ กทม.และปริมณฑล ทุ่มงบลงทุนรวม 1,800 ล้านบาท จ่อทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ ภายในไตรมาส 3 นี้

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย โดยเน้นพื้นที่ในเขตปริมณฑลโดยเฉพาะอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2563 สามารถสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศชะลอตัวหลังจากที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยบริษัทฯ สามารถสร้างสถิติผลการดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ทั้งในด้านกำไรสุทธิและรายได้รวม โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 84.64 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 49.4% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 56.65 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 803.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.2% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม 652.67 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/2563 มีรายได้รวม 303.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111.68 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 191.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 42.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.53 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.50 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวเป็นผลจากการรับรู้รายได้โครงการที่เปิดขาย จำนวน 7 โครงการ แบ่งเป็นโครงการที่ตั้งอยู่จังหวัดนนทบุรี 6 โครงการ ได้แก่ คุณาลัย บีกินส์ 1 คุณาลัย จอย คุณาลัย พอลเลน คุณาลัย ซิมโฟนี คุณาลัย บีกินส์ 2 คุณาลัย พรีม และโครงการที่ตั้งอยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา 1 โครงการ ได้แก่ โครงการคุณาลัย จอย ออน 314 ส่งให้ ณ สิ้นปี 2563 สามารถปิดยอดขายได้ 799.64 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการทุบสถิติยอดขายตั้งแต่เปิดโครงการมา

ปี2563 เป็นปีแห่งความท้าทายในการบริหารงาน บริษัทฯ ต้องปรับกลยุทธ์การตลาดภายใต้วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดแนวคิดการอยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ ภายใต้ EVERYTHING AT HOME ทุกสิ่งเกิดขึ้นที่บ้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและรองรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยชูจุดเด่นเรื่องพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เหนือคู่แข่ง

ส่งผลให้ทุกโครงการของคุณาลัยได้การตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จด้านยอดขายตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจากแผนการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวรวมถึงการบริหารจัดการและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ รักษาอัตรากำไรไว้ได้ในระดับสูง โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 10.58%

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิงวดปี 2563 เพื่อจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นและเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.11 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้นเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 ส่วนที่เหลืออีก 0.08 บาทต่อหุ้น จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 12 พ.ค.2564 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 11 พ.ค.2564 เพื่อกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 พ.ค.2564 ภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2564 แล้ว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางธุรกิจในปี 2564 โดยตั้งเป้าทำยอดขายที่ 1,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขาย 1,410 ล้านบาท ขณะที่รายได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโต 10-15% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 799.64 ล้านบาท ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ 333 ล้านบาทเข้ามาทั้งหมด

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ วางงบลงทุนรวม 1,800 ล้านบาท ในการเปิดโครงการใหม่เพิ่ม ซึ่งเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาพื้นที่บนในทำเลรอบ กทม.และปริมณฑล ทั้งโซนทิศเหนือ ตะวันตก ตะวันออก และใต้ รวมถึงยังคงยึดมั่นในการทำสินค้า คุ้มค่าน่าซื้อในระดับราคา 2-5 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค สำหรับโครงการใหม่บริษัทฯ เตรียมทยอยเปิดตัวไตรมาส 3/2564 เป็นโครงการที่ทดแทนโครงการเดิมที่หมดไป โดยเป็นสินค้าเดิมแต่มีการปรับรูปแบบสินค้าให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น โครงการตั้งอยู่ย่านบางบัวทอง คิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบในครึ่งปีแรก 2564 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แม้ว่าแนวโน้มการแข่งขันอสังหาฯ แนวราบจะมีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากที่อยู่อาศัยประเภทดังกล่าวยังคงมีความต้องการสูงของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อและต้องการอยู่อาศัยจริง (Real Demand) ส่งผลให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายกลาง และรายเล็กหันมาให้ความสำคัญกับตลาดแนวราบมากขึ้น บริษัทฯ จึงศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงวางกลยุทธ์เพื่อรับมือคู่แข่ง โดยใช้หลักการภายใต้กลยุทธ์ “เกาะปีกอินทรี” โดยนำกลยุทธ์คู่แข่งมาประเมิน เช่น ด้านการตลาด การออกแบบโครงการ เพื่อนำมาปรับแผนการทำงานของบริษัทฯ ให้สามารถแข่งขัน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้


กำลังโหลดความคิดเห็น