xs
xsm
sm
md
lg

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ บ.บัตรกรุงศรีอยุธยาที่ระดับ “AAA”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท ทริส เรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด ที่ระดับ “AAA” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 9 พันล้านบาท อายุไม่เกิน 3 ปี ของบริษัทที่ระดับ “AAA” ด้วยเช่นกัน แนวโน้มอันดับเครดิตยังคง “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตของหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ใช้แทนอันดับเครดิตหุ้นกู้เดิมที่ได้รับการจัดอันดับเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 เนื่องจากบริษัทมีความประสงค์จะเพิ่มวงเงินรวมของหุ้นกู้เป็นไม่เกิน 9 พันล้านบาท จากเดิม 6 พันล้านบาท

อันดับเครดิตของบริษัทได้รับการยกระดับจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทซึ่งสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งต่อสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จากทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ การที่บริษัทมีฐานะเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาและอยู่ภายใต้กลุ่ม Solo Consolidation นั้นทำให้บริษัทได้รับการควบคุมอย่างเต็มรูปแบบจากธนาคารแม่ ซึ่งทำให้บริษัทอยู่ภายใต้การควบคุมแบบทางอ้อมจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดว่าด้วย “หลักเกณฑ์การกำกับแบบรวมกลุ่ม” (Consolidated Supervision) บริษัทมีระบบปฏิบัติการร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ธนาคารยังให้การสนับสนุนบริษัทในด้านความร่วมมือทางธุรกิจและการสนับสนุนทางการเงินด้วยการให้วงเงินสินเชื่อที่เพียงพอและต่อเนื่องซึ่งช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่บริษัทอีกด้วย

อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจบัตรเครดิต โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับประมาณ 11% ของมูลค่าสินเชื่อคงค้างของบัตรเครดิต และที่ระดับประมาณ 10% ของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2563 ยังคงอยู่ในระดับที่ดีแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ก็ตาม โดยสินเชื่อคงค้างของบริษัทหดตัวลง 6% มาอยู่ที่ 4.82 หมื่นล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2563 จาก 5.14 หมื่นล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2562 ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดของตนเอาไว้ได้จากการช่วยเหลือของธนาคารแม่ผ่านกิจกรรมทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพและความร่วมมือที่มีกับธนาคารแม่

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรเอาไว้ได้ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายสำหรับหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญของบริษัท โดยทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยในช่วงปี 2563-2565 ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.5% ทั้งนี้ ปัจจัยที่อาจส่งผลกดดันต่อผลการดำเนินงานของบริษัทประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมไปถึงเพดานอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 16% จากเดิมที่ 18% ตามเกณฑ์การกำกับดูแลธุรกิจบัตรเครดิตของ ธปท. ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 เป็นต้นมา

ทริสเรทติ้งยังคาดหวังด้วยว่าบริษัทจะยังคงรักษาคุณภาพสินเชื่อที่ดีไว้ได้จากการมีนโยบายในการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวด ตลอดจนการมีระบบจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพ และการมีสำรองหนี้สูญที่เพียงพอ ทริสเรทติ้งมองว่าบริษัทจะมีการเตรียมความพร้อมที่เพียงพอที่จะรองรับความถดถอยของคุณภาพสินเชื่อที่อาจเกิดขึ้นได้ และอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ชั้นที่ 3 (ซึ่งจัดเป็นระดับชั้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เกินกำหนด 90 วัน) ต่อสินเชื่อรวมของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับไม่เกิน 4% ในช่วงปี 2563-2565 เมื่อเทียบกับระดับ 3% ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2563 และน่าจะยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

บริษัทน่าจะยังคงรักษาระดับฐานทุนให้แข็งแรงและเพียงพอสำหรับแผนการขยายธุรกิจและช่วยรองรับค่าใช้จ่ายหนี้สูญที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยลงได้อีกด้วย โดยทริสเรทติ้งประมาณการว่าบริษัทจะมีฐานทุนที่ยังคงแข็งแรงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงโดยเฉลี่ยในระยะเวลา 5 ปี (2561-2565) อยู่ที่ระดับ 20.4% ในขณะเดียวกัน ภาระหนี้ของบริษัทก็ยังคงอยู่ในระดับปานกลางโดยวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่อยู่ในระดับ 1.5 เท่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งอัตราส่วนดังกล่าวยังต่ำกว่าข้อกำหนดทางการเงินที่บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนไม่ให้เกิน 6 เท่าอยู่ค่อนข้างมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น