APCO เตรียมจ่ายปันผล 0.12 บาทต่อหุ้นคิดเป็น 100% 10 ปีซ้อน เดินหน้าตามแผนธุรกิจ เน้นทำการตลาดผ่าน Social Media เต็มรูปแบบ ตั้งเป้ายอดขายในประเทศโต 10% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80% คาดไตรมาส 1/64 เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มภูมิคุ้มกันช่องทาง E-commerce ผ่านเครือข่ายพันธมิตรจีน เผยผลประกอบการปี 63 รายได้รวม 253.14 ล้านบาท กำไรสุทธิ 69.98 ล้านบาท
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท หรือคิดเป็น 100% ของกำไรสุทธิ ซึ่งถือเป็นปีที่ 10 ที่บริษัทจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตรา 100% อย่างต่อเนื่อง โดยจะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดทั้งสิ้น 72 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 27 เม.ย.64 และจ่ายปันผลในวันที่ 10 พ.ค.64 (ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 19 เม.ย.64)
สำหรับการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นทำการตลาดผ่าน Social Media รวมถึงทั้งการขายผ่านศูนย์ BIM Health Center และตัวแทนจำหน่าย นอกจากนี้ การร่วมมือกับอะโฮ้ อะคาเดมี่ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดไขมันส่วนเกินผ่านช่องทางออนไลน์ Social Media ในนามบริษัท ไฮโซลด์ ดิจิทัล จำกัด มีการตอบรับที่ดี โดยบริษัทตั้งเป้าปี 64 ยอดขายในประเทศโต 10% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80%
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/64 จะเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันและรักษามะเร็ง รวมถึงการติดเชื้อไวรัสทุกชนิดในประเทศจีน ผ่านเครือข่ายพันธมิตรประเทศจีนได้โดยช่องทาง E-commerce เพื่อขยายฐานลูกค้า เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ของ APCO รวมทั้งเริ่มร่วมการทดสอบเชิงคลินิกในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งในประเทศจีน 50-100 คน
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 71.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 57.91 ล้านบาท จำนวน 13.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23.57% และมีกำไรสุทธิ 17.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 16.07 ล้านบาท จำนวน 1.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.85%
ส่วนผลประกอบการปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 253.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 248.34 ล้านบาท จำนวน 4.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.93% และมีกำไรสุทธิ 69.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 57.90 ล้านบาท จำนวน 12.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.85% และมีกำไรที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ในงบการเงินเฉพาะกิจการเพิ่มขึ้น 25.85% จากปี 2562
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ปรับตัวเพิ่มในไตรมาส 4/63 เนื่องจากบริษัทปรับแผนการตลาด ทำให้มียอดขายสูงขึ้น ขณะที่ผลประกอบการทั้งปีปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการบริหารเงินสดส่วนเกินบางส่วนด้วยการลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุนของผู้ออกตราสารที่มีความมั่นคงทางการเงิน