xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ คาด OR เทรดวันแรกราคาขยับขึ้นไม่มาก ให้ราคาเหมาะสม 20-25 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โบรกเกอร์ประเมินราคาหุ้น OR เทรดวันแรกปรับตัวขึ้นได้ไม่มากเหตุหุ้นกระจายอยู่ในมือกองทุน 16% รายย่อยกว่า 5 แสนรายหรือราว 9% โดยให้ราคาเหมาะสม 20-25 บาท คาดกองทุน Passive Fund เล็งเก็บเข้าพอร์ตหลังเข้าดัชนี SET50 และดัชนี MSCI จะช่วยหนุนราคา และมีโอกาสธุรกิจ Non-oil ยังขยายตัวได้อีกมากจากการขยายร้านแบรด์ Cafe Amazon รวมถึงการรุกขยายเข้าไปต่างประเทศ

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขายหุ้น บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ในวันเข้าเทรดวันแรกก็คือวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) มองว่าการปรับตัวของราคาในวันแรกจะปรับขึ้นได้เล็กน้อย เนื่องจากการกระจายหุ้น OR ในครั้งนี้สามารถกระจายให้แก่ผู้ถือหุ้นต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง และส่วนใหญ่กระจุกตัวในกลุ่มนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศในสัดส่วนที่สูง 16% ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ลงทุนระยะยาว ทำให้ราคาเปิดการซื้อขายวันแรกคงจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ด้านมุมมองราคาหุ้นของ OR หลังเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นในลักษณะค่อยๆ แกว่งตัวขึ้น ในกรณีที่แนวโน้มของผลการดำเนินงานมีทิศทางที่กลับมาฟื้นตัวขึ้นในปี 64 ตามที่ประเมินไว้ว่ากำไรมีโอกาสฟื้นกลับมาในระดับ 1 หมื่นล้านบาทได้ จากปี 63 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนทำให้กำไรปรับตัวลดลงมาต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งด้วยจำนวนหุ้นที่เข้ามามีขนาดใหญ่กว่า 2 แสนล้านบาท สามารถเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และดัชนี MSCI ได้ ทำให้จะมีแรงซื้อจากกองทุนต่างๆ เข้ามาหนุนราคาหุ้น

ขณะที่ภาพของธุรกิจในอนาคตมองว่าธุรกิจค้าปลีก (Non-oil) และธุรกิจในต่างประเทศจะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันผลงานของ OR ให้เติบโตขึ้น และช่วยลดความผันผวนจากธุรกิจน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนที่สูงเกือบ 70% และธุรกิจ Non-oil มีสัดส่วนราว 25% ซึ่ง OR ยังมีโอกาสขยายธุรกิจ Non-oil ได้อีกมาก โดยเฉพาะการขยายแบรนด์ Cafe Amazon ที่เป็นโอกาสทางธุรกิจ จากการใช้โมเดลการขยายรูปแบบแฟรนไชส์ที่สามารถเจาะเข้าไปในพื้นที่ต่างๆ โดยที่บริษัทไม่ต้องลงทุนขยายเองมาก และยังมีรายได้จากการขายแฟรนไชส์เข้ามา รวมถึงการขยายสาขาในลาว และกัมพูชา ซึ่งได้รับความนิยมมากว่าแบรนด์กาแฟชื่อดังระดับโลก

อีกทั้งธุรกิจ Non-oil ยังเป็นธุรกิจที่ให้มาร์จิ้นที่ดีในระดับมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับธุรกิจน้ำมันที่มีมาร์จิ้นราว 5% ทำให้เป็นโอกาสที่ OR จะสามารถสร้าง New S-Curve ใหม่ให้แก่ธุรกิจต่อยอดการเติบโต และยังไม่รวมกับการนำเงินที่ได้จาก IPO ไปลงทุนอื่นๆ เข้ามาในอนาคต ทำให้ OR ยังมีความน่าสนใจในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน และภาพการต่อยอดธุรกิจ โดยในเบื้องต้นให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 22 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่คำนวณจาก P/E ของกลุ่มน้ำมันที่ 19 เท่า และกลุ่มค้าปลีกที่ 22 เท่า โดยช่วงราคาที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 20-25 บาท/หุ้น ที่มองว่ายังน่าเข้าลงทุนได้

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางราคาหุ้น OR ในวันซื้อขายวันแรก คาดว่าจะเปิดและยืนในแดนบวกได้ แต่จะไม่เห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก แม้ว่า OR จะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และมีความแข็งแกร่งทางด้านฐานะการเงินก็ตาม แต่การที่หุ้น IPO ที่ถูกกระจายไปส่วนใหญ่อยู่ในมือของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศรวมกัน 16% ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ถือหุ้นยาวและต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนตามกฎเกณฑ์ของกองทุน ทำให้โอกาสของราคาเปิดขายวันแรกจะพุ่งขึ้นสูงมีโอกาสได้ยาก เพราะหากราคาขึ้นสูงไปมากกองทุนก็จะต้องขายทำกำไรออกมาบางส่วนตามกฎการลงทุน

อีกทั้งในส่วนของนักลงทุนรายย่อยในสัดส่วน 9% หรือกว่า 500,000 ราย ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นไปก็ยังแนวคิดในการลงทุนที่แตกต่างกัน และถือว่ามีผลต่อทิศทางราคาหุ้นไม่มาก ทำให้การซื้อขายของนักลงทุนรายย่อยไม่สามารถช่วยหนุน หรือกดดันราคาหุ้น OR ได้อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ภาพในระยะสั้นมองว่าราคาหุ้น OR ยังแกว่งตัวขึ้นได้ จากการที่ OR จะสามารถเข้าคำนวณดัชนี SET50 และดัชนีสำคัญอื่นๆ ของโลกทั้ง MSCI World Index และดัชนี FTSE ทำให้กองทุนที่เป็น Passive Fund ที่ต้องตามดัชนีสำคัญต่างๆ เข้าซื้อหุ้น OR เพิ่ม

หลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 3 วัน OR จะสามารถเข้าคำนวณใน SET50 ในอันดับที่ 19 และคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทุน Passive Fund เข้ามาซื้อสะสมหลังคิดคำนวณในดัชนีสำคัญต่างๆ ราว 900-1,000 ล้านบาท ทำให้เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันราคาของ OR หลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว และหากผลงานของ OR สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ตามที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนคาดไว้ ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้กองทุนต่างๆ จะให้น้ำหนักกับหุ้น OR มากขึ้น

ส่วนราคาเป้าหมายที่เหมาะสมของหุ้น OR มองว่า 20-25 บาทเป็นระดับราคาเป้าหมายที่นักลงทุนสามารถถือ หรือเข้าซื้อเพิ่มได้ต่อเนื่อง หากปรับขึ้นไปเหนือ 25 บาทขึ้นไป ยังสามารถถือไว้ก่อนได้แต่ค่อยๆ ลดน้ำหนักการลงทุน หากปรับเพิ่มไปที่ 30 บาท มองว่า Valuation เริ่มตึงตัวแล้ว และมีความเสี่ยงที่จะถูกแรงขายกดดันราคาลงมา และสุดท้ายหากราคาลดลงต่ำกว่า 20 บาท ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก แนะนำให้ซื้อสะสมเข้าได้ โดยที่ระดับราคาเป้าหมายที่เหมาะสมอยู่ที่ไม่เกิน 25 บาท/หุ้น

ด้าน น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) กล่าวว่า บริษัทถือเป็นผู้นำและเป็นธุรกิจที่ดำเนินงานเกี่ยวกับ Oil และ Non-Oil รายแรกในประเทศไทย มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 โดยที่ OR ประกอบไปด้วยการดำเนินธุรกิจ 3 อย่าง ได้แก่ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขายน้ำมันและก๊าซ ที่มีทั้งปั๊มน้ำมัน PTT Station การขายน้ำมันอากาศยาน การขายก๊าซ LPG ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน และการขายน้ำมันหล่อลื่น ซึ่งเป็นธุรกิจที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันมาอย่างยาวนาน

ธุรกิจ Non-Oil ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีก โดยมีแบรนด์ Café Amazon ที่คนไทยให้ความนิยมกันเป็นจำนวนมาก และมียอดขายเครื่องดื่มและสาขาที่เติบโตขึ้น และเป็นธุรกิจที่ให้มาร์จิ้นแก่บริษัทที่ดีในระดับ 25-30% สูงกว่าธุรกิจน้ำมันที่ที่ให้มาร์จิ้น 3-4% แม้ว่าธุรกิจ Non-Oil จะมีสัดส่วนที่ยังน้อยกว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันค่อนข้างมาก แต่เป็นทิศทางที่บริษัทจะนำมาต่อยอดไปในอนาคต เพื่อสร้างการเติบโตให้แก้ธุรกิจ และธุรกิจในต่างประเทศที่ OR มีการขยายในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว และกัมพูชา เป็นการนำธุรกิจ Oil และ Non-Oil เข้าไปรุกขยายตลาดในต่างประเทศ ทำให้ OR มีรายได้ที่มาจากต่างประเทศเข้ามาเสริม

โดยโมเดลในการทำธุรกิจของ OR นั้นจะหันมาเน้นไปที่การทำให้ปั๊มน้ำมัน PTT Station เป็นแพลตฟอร์มในการรวบรวมสินค้าและบริการเข้ามาให้บริการกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในปั๊มน้ำมันของ OR ทำให้ OR มีโอกาสในการเสนอสินค้าและบริการของบริษัทเองมากขึ้น และเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ หรือคู่ค้าที่ต้องการนำสินค้าและบริการมาเสนอขายในปั๊มน้ำมันของ OR เข้ามาได้ โดยที่ OR สามารถมีส่วนแบ่งรายได้จากคนอื่นๆ หรือคู่ค้าเข้ามาเสริม

นอกจากนี้ เงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO ในครั้งนี้ ยังนำมาใช้ต่อยอดในการขยายธุรกิจ หลังจากที่ชำระระคืนหนี้ไปบางส่วน โดยเฉพาะการขยายสาขาแบรนด์ Cafe Amazon ที่ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 5,000 สาขา ในปี 68 จากปัจจุบันที่มี 3,600 สาขา รวมถึงการขยายปั๊มน้ำมัน PTT Station ในต่างประเทศ และการเข้าลงซื้อหรือร่วมทุนธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเข้ามาต่อยอดการเติบโตให้แก่ OR เพิ่มเติมหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว

สำหรับราคา IPO ที่กำหนดไว้ที่ 18 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม หลังจากที่บริษัทเดินสายสำรวจข้อมูลจากนักลงทุนต่างๆ มากว่า 3 เดือน และเป็นราคาที่บ่งบอกถึงศักยภาพที่เหมาะสมของ OR และนักลงทุนรายย่อยให้การตอบรับกับการจองซื้อ IPO ของบริษัทที่มียอดจองสูงที่สุดถึง 530,000 รายการ ซึ่งมั่นใจว่า OR จะผลักดันการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจ พร้อมกับการต่อยอดและการกระจายการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจ


กำลังโหลดความคิดเห็น