พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง เดินหน้าระดมทุน หลังสำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง PROS เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 140 ล้านหุ้น เพื่อนำเงินจากการระดมทุนไปใช้สำหรับลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) กล่าวว่า บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS หนึ่งในผู้นำธุรกิจบริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ถือเป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากงานโครงสร้างพื้นฐาน งานก่อสร้างโครงการ และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการที่จะผลักดันการลงทุนในประเทศ ขณะเดียวกัน ผู้บริหารของบริษัทเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจมายาวนานกว่า 24 ปี ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีเงินทุนที่จะรองรับโอกาสการเติบโตในอนาคต
โดยหลังจากได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง)/ร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ปัจจุบัน สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งแล้ว เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ PROS ในครั้งนี้ จะเสนอขายจำนวน 140 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 270 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 200 ล้านบาท
นายพงศ์เทพ รัตนแสงสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านงานรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารรายใหญ่ของประเทศ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานมาอย่างยาวนาน มุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพ การดูแลและเอาใจใส่ลูกค้าแต่ละโครงการอย่างใกล้ชิด การตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ตลอดจนการส่งมอบงานที่มีมาตรฐานและคุณภาพภายในระยะเวลาที่ลูกค้ากำหนด ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของโครงการให้ดำเนินงานติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารมาอย่างต่อเนื่อง โดยฐานลูกค้าหลักกระจายอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารชุดพักอาศัย ศูนย์กระจายสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้ลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต นอกจากนั้น การเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานของบริษัทฯ ให้เป็นมาตรฐานสากล เพิ่มความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี ต่อลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินกิจการภายใต้หลักบรรษัทภิบาล มีความยั่งยืนและมีความโปร่งใส รวมทั้งการต่อยอดด้านการพัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเติบโตของบริษัทฯ
สำหรับภาพรวมผลประกอบการของกลุ่มบริษัท ในงวด 9 เดือนของปี 2563 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากงานก่อสร้างและงานบริการ 584.84 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.90 ซึ่งใกล้เคียงกับเมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนปี 2562 ซึ่งถึงแม้กลุ่มบริษัทจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 อยู่บ้างแต่กลุ่มบริษัทก็ยังสามารถรักษาการรับรู้รายได้ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่กำไรสุทธิมีจำนวน 19.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2562 จำนวน 8.58 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 78.54 ปัจจัยสำคัญมาจากมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายของกลุ่มบริษัท ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของกลุ่มบริษัทปรับลดลงค่อนข้างมาก ในขณะที่รายได้จากงานก่อสร้างและบริการรวมถึงกำไรขั้นต้นของกลุ่มบริษัทค่อนข้างใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนผลประกอบการของปี 2562 มีรายได้จากงานก่อสร้างและงานบริการ 938.46 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 27.45 ล้านบาท