"มีนาทรานสปอร์ต" เดินหน้าตามแผนระดมทุน หลังสำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 184 ล้านหุ้น เพื่อนำเงินจากการระดมทุนไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต ใช้จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ
นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA มีศักยภาพในธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากงานโครงสร้างพื้นฐาน งานก่อสร้างโครงการ และสอดรับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันการลงทุนในประเทศ เนื่องจากรถขนส่งเป็นสิ่งจำเป็น โดยรถของ MENA ถือว่ามีจำนวนมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมรถผสมคอนกรีต มีลูกค้ารายใหญ่เชื่อมั่น ไว้วางใจใช้บริการอย่างต่อเนื่องและพร้อมเดินหน้ารับโอกาสการเติบโตในอนาคต เป็นผู้ประกอบการรายแรกในธุรกิจรถผสมคอนกรีตที่เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งแล้ว เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ MENA ในครั้งนี้ จำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 367 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 275 ล้านบาท
ด้านนางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีต หรือรถมิกเซอร์ (Mixer) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโต และมีความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่อง เนื่องจากความสามารถในการบริหารจัดการรถและพนักงานจัดส่งที่มีศักยภาพ ในการควบคุมคุณภาพสินค้าคอนกรีตตลอดการขนส่ง ทำให้ MENA เป็นที่ไว้วางใจต่อลูกค้าบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ เช่น บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด (INSEE) บริษัท เอเซียผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ จำกัด (BUA Concrete) และบริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) รวมถึงการขยายขอบเขตการให้บริการไปยังบริษัทผู้ผลิตท้องถิ่นอื่นๆ ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถลากจูงหรือรถเทรลเลอร์ (Trailer) และการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง เพื่อความครบวงจร และเสริมสร้างโอกาสในธุรกิจ
ปัจจุบัน MENA มีรถที่บริหารจัดการมากกว่า 600 คัน แบ่งเป็นรถมิกเซอร์ 466 คัน รถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 83 คัน และมีรถกึ่งพ่วง (หางลาก) ประเภทต่างๆ รวม 104 คัน ด้วยความสามารถในการบริหารจัดการกองยานจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจและรับงานได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะงานโปรเจกต์ขนาดใหญ่ โดยจะทำการขนส่งสินค้าชนิดต่างๆ ให้คู่ค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ
"วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยโครงการในอนาคตของบริษัทฯ มีนโยบายกำหนดอัตราผลตอบแทนภายในขั้นต่ำ (IRR) เพื่อประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น" นางสุวรรณา กล่าว
สำหรับภาพรวมผลประกอบการบริษัทฯ รายได้รวมจากการประกอบธุรกิจของ MENA ประกอบด้วยรายได้ค่าขนส่ง รายได้ค่าบริการ รายได้จากการขาย และรายได้อื่น ซึ่งในงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 476.6 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากค่าขนส่งและค่าบริการขนส่งคอนกรีตในสัดส่วนที่มากกว่า 90% ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 24.4 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย จาก 26.9 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 เนื่องมาจากผลกระทบโควิด-19 ส่งผลให้การขนส่งชะลอตัวตามความคืบหน้าของงาน และความต้องการของลูกค้า แต่อย่างไรก็ตาม จากการที่ MENA ปรับตัวโดยการลดค่าใช้จ่าย ประกอบกับ MENA มีต้นทุนทางการเงินลดลงจากการชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิทำได้ดีขึ้นอยู่ที่ 5.5% สำหรับผลประกอบการในปี 2562 รายได้รวมอยู่ที่ 703.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 37.6 ล้านบาท