สัปดาห์ก่อน หลังจากดัชนีหุ้นพุ่งทะลุระดับ 1,560 จุด นักลงทุนมองว่า รอบนี้มีโอกาสได้เห็นการตีฝ่าแนวต้าน 1,600 จุด แต่ปัจจุบัน กลับต้องลุ้นกันว่า ดัชนีหุ้นระดับ 1,500 จุด จะยืนอยู่หรือไม่ เพราะกองทุนในประเทศเทขายหุ้นอย่างหนัก
กองทุนเปิดฉากขายหุ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา โดยขายหุ้นสุทธิ 3,872.24 ล้านบาท วันที่ 15 มกราคมถล่มขายอีก 3,844.23 ล้านบาท และวันจันทร์ที่ 18 มกราคมยังขายอีก 2,823.19 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ กองทุนขายหุ้นสุทธิรวมทั้งสิ้น 10,539.66 ล้านบาท
ดัชนีหุ้นปรับตัวลงแรง 3 วันติด โดยลงจากจุดสูงสุดประมาณ 50 จุด ซึ่งสาเหตุสำคัญเกิดจากการเทขายของกองทุนในประเทศ และการปรับตัวลงของหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA
การปรับฐานของตลาดไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกประหลาดใจ เพราะตั้งแต่ต้นปี ดัชนีหุ้นดีดตัวแรงอย่างต่อดเนื่อง โดยปรับตัวขึ้นกว่า 100 จุด และไม่มีปัจจัยสนับสนุนที่ชัดเจน ซึ่งแม้นักลงทุนต่างชาติยังซื้อหุ้นต่อจากช่วงปลายปี แต่ไม่ได้โหมซื้อมากมายนัก
หุ้นที่พุ่งทะยานนับจากต้นปีจึงมีความเปราะบาง และพร้อมจะเกิดการปรับฐานตลอดเวลา เมื่อกองทุนเทขาย ดัชนีหุ้นจึงดิ่งลงทันที
เป็นที่คาดกันว่า การที่ กองทุนในประเทศหันมาเทขายหุ้นในช่วงนี้ เนื่องจากต้องการสำรองเงินเพื่อเตรียมจองซื้อหุ้นบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR
OR จัดสรรหุ้นจำนวน 1,264.30 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนสถาบันในประเทศในราคาระหว่าง 16-18 บาท ซึ่งจะต้องใช้เงินจองซื้อรวมประมาณ 20,000 ล้านบาท กองทุนจึงต้องขายหุ้นเพื่อสำรองเงินไว้จองหุ้น OR โดยขายหุ้นออกมาแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท และอาจต้องขายต่ออีกสักวันสองวัน
หุ้นจึงมีโอกาสลงต่อ การปรับฐานถือว่ายังไม่สะเด็ดน้ำ
ยิ่งมีตัวแปรสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ ในช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจประธานาธิบดีคนใหม่ มีแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นจึงอาจถูกฉุดจนหลุดระดับ 1,500 จุดได้
นักลงทุนรายย่อยกลับมาเป็นผู้ซื้อรายใหญ่อีกครั้ง โดยการปรับฐาน 3 วันที่ผ่านมา ซื้อมาตลอด ทั้งที่ควรจะรอให้หุ้นปรับฐานสะเด็ดน้ำเสียก่อน เพราะจะทำให้สามารถซื้อหุ้นในราคาต้นทุนที่ต่ำลง แต่ ความรีบร้อนทำให้ต้องแบกหุ้นต้นทุนสูง
อย่างไรก็ตาม การปรับฐานรอบนี้น่าจะจบสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่มีข่าวร้ายหรือปัจจัยลบใดมาแทรกซ้อน เพราะกองทุนคงหมดความจำเป็นในการขายหุ้น และราคาหุ้น ถ้าย่อลงอีกสักหน่อยน่าจะถึงจุดที่เหมาะสมในการกลับเข้าไปลงทุน
แนวรับแถว 1,500 จุด จึงเป็นจุดต้านสำคัญสำหรับการปรับตัวลงในรอบนี้ และหากหลุดจาก 1,500 จุด จะเพิ่มความน่าสนใจการเข้าไปช้อนเก็บ โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มหลักๆ ที่อ่อนตัวลงมา
ตลาดหุ้นย่างเข้าสู่ช่วงปลายขาลงแล้ว แต่ถ้ายังลงต่อ จะ เป็นจุดเริ่มต้นการทยอยเลือกช้อนหุ้นเก็บตุน เพื่อดักเก็งกำไรรอบใหม่
กลางหรือปลายสัปดาห์นี้ เมื่อหมดแรงขายของกองทุนหุ้นมีสิทธิเด้งกลับ