กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.00-30.30 ต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 30.07 ต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังซื้อขายในช่วง 29.85-30.15 ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ในตลาดโลกฟื้นตัวขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่าข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความซบเซาในตลาดแรงงานจะเร่งให้สหรัฐฯ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยดัชนีสำคัญของตลาดหุ้น Wall Street ยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยมูลค่า 5.3 พันล้านบาท และขายพันธบัตร 2.5 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับการแถลงแผนใช้จ่ายทางการคลังของว่าที่ประธานธิบดีโจ ไบเดน และความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในงานสัมมนาออนไลน์ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน วันที่ 14 ม.ค. หลังรายงานการประชุมนโยบายครั้งล่าสุดของเฟดระบุว่า มีมติใกล้เคียงเอกฉันท์ในการคงโครงการซื้อพันธบัตรไว้ตามเดิมจนกว่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมาย โดยเฟดไม่ได้แสดงท่าทีสนับสนุนอย่างชัดเจนสำหรับการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวมากขึ้น แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในระยะข้างหน้าหากจำเป็น กรุงศรีมองว่า ในสัปดาห์นี้ Momentum ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยชี้นำสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ราคาทองคำ และกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย
ด้านปัจจัยในประเทศ หลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63 บ่งชี้ว่าการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งหากสถานการณ์รุนแรงจะกระทบต่อประมาณการเศรษฐกิจมาก ขณะที่มาตรการด้านการคลังมีบทบาทสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนระดับหนี้สาธารณะที่ปรับสูงขึ้น กนง.เห็นว่าไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ กรุงศรีจึงคาดว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ในปีนี้ แต่การเริ่มต้นปีอย่างอึมครึมทำให้มีความกังวลมากขึ้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม