โบรกเกอร์แนะจับตาหุ้นชิ้นส่วนรถยนต์-อิเล็กทรอนิกส์ ได้รับผกลกระทบมากน้อยแค่ไหน หลังค่ายรถยนต์ทั่วโลกมีแนวโน้มปรับลดกำลังการผลิต หลังขาดแคลน Semiconductor ล่าสุด ฮอนด้าประกาศหยุดสายการผลิตที่ปราจีนบุรี จากการขาดแคลน Supply Chain ด้าน STANLY ยืนยัน "ฮอนด้า" หยุดโรงงานกระทบเล็กน้อย เหตุเป็นการหยุดระยะสั้น ชี้ดีมานด์ยังแกร่ง ทั้งรถรุ่นใหม่ ออเดอร์จากมอเตอร์เอ็กซ์โป มั่นใจปีนี้ดีกว่าปีก่อนหลังตลาดส่งสัญญาณฟื้น
นายสรพล วีระเมธีกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า ขณะที่ค่ายรถยนต์ทั่วโลกกำลังเกิดสภาวะ Semiconductor เริ่มขาดแคลน ทำให้ค่ายรถยนต์ทั้งเดมเลอร์ ฟอร์ด และหลายค่ายรถญี่ปุ่น ออกมาระบุว่า อาจปรับลดเป้ากำลังการผลิตปีนี้ นอกจากนี้ ยังพบว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัวปรับขึ้นราคา ซึ่งมีผลต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จึงอาจทำให้ต้องเลื่อนการสั่งซื้อออกไปด้วย
ระยะสั้นมองว่าเป็นผลกระทบเชิงลบ แต่ยังไม่แน่นอนว่าจะส่งผลต่อราคาหุ้นมากน้อยอย่างไร โดยรอบนี้ต้องจับตาสาเหตุของการขาดแคลน Semiconductor ว่ามาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น หรือการขนส่งสินค้า เนื่องจากพบว่าหลายประเทศเริ่มประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบ 2-3
ชี้ค่ายรถลดกำลังผลิตกระทบ KCE มากสุด แต่บวกกับ HANA
ดังนั้น ถ้าค่ายรถยนต์ปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ setiment อาจกระทบ KCE มากสุด เพราะมียอดขายในกลุ่มรถยนต์มากสุด 50% หากเทียบหุ้นอื่นที่มียอดขายกลุ่มนี้ 10-20% แต่อีกมุมเป็นบวกต่อ HANA
อย่างไรก็ดี หลายประเทศเริ่มกลับมาล็อกดาวน์รอบ 2-3 ทำให้อาจเกิดการขาดแคลนสินค้า ซึ่งกลุ่มที่รับผลดีแรกๆ อาจเป็นกลุ่มเดินเรือ ขนส่ง ต้องดูต่อไป ส่วนประเทศไทยเป็นฐานการนำเข้าสินค้าเพื่อส่งออก ต้องมาดูผลกระทบและภาวะ supply disruption
บล.เคทีบี ชี้ฮอนด้าหยุดโรงงงานปราจีนฯ อาจมีปัญหา supply chain
ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า จับตากลุ่ม Automotive หลังฮอนด้าประกาศหยุดไลน์การผลิตซิตี้-แจ๊ซ-ซีวิค ในนิคมโรจนะ จ.ปราจีนบุรี เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 8-20 ม.ค.64 เนื่องจากกระบวนการซัปพลายเชนและโลจิสติกส์ โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถป้อนให้แก่โรงงานประกอบรถยนต์ได้
ทั้งนี้ มองเป็นลบเล็กน้อยจากข่าวดังกล่าว โดยกรณีฮอนด้าหยุดสายการผลิตที่ จ.ปราจีนบุรี ถึงวันที่ 20 ม.ค. คาดว่าผลกระทบยังค่อนข้างจำกัด (ฮอนด้ามีโรงงาน 2 แห่งที่ จ.อยุธยา และ จ.ปราจีนบุรี) แต่จะมีความกังวลมากขึ้นว่าอาจเกิดปัญหา supply chain กับค่ายรถยนต์อื่นให้อาจหยุดหรือลดกำลังการผลิตได้ ซึ่งจะทำให้ยอดผลิตรถยนต์กลับมาชะลอตัวชั่วคราวได้
ระบุ STANLY กระทบหนักสุดจากฮอนด้าหยุดสายผลิต
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากสุดจากการที่ฮอนด้าหยุดสายการผลิต ได้แก่ STANLY ขณะที่ SAT คาดกระทบน้อยเนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากฮอนด้าเพียง 4%
กลุ่ม Automotive ยังให้น้ำหนักการลงทุน Neutral โดยหุ้น SAT เราแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 15.70 บาท อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นเรามองว่าข่าวดังกล่าวจะเป็นลบต่อ sentiment กลุ่ม Automotive และผลกระทบโควิด-19 อาจกระทบต่อยอดการผลิตรถยนต์ในเดือน ม.ค.-ก.พ.64 ให้กลับมาชะลอตัวได้ ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้น SAT กลับมา underperform SET ได้
STANLY ยัน "ฮอนด้า" หยุดผลิตชั่วคราว กระทบเล็กน้อย
นายอภิชาติ ลี้อิสสระนุกูล รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY เปิดเผยว่า กรณีที่ฮอนด้าประกาศหยุดไลน์การผลิตซิตี้ แจ๊ซ และซีวิค ในนิคมโรจนะ จ.ปราจีนบุรี เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 8-20 ม.ค. นี้ว่า เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากเป็นการหยุดผลิตช่วงระยะเวลาสั้นเท่านั้น
อีกทั้งท้ายสุดก็จะกลับมาผลิตได้ เพราะที่ผ่านมา ฮอนด้าได้เปิดตัวรุ่นใหม่ และมียอดขายในช่วงมอเตอร์เอ็กซ์โป ซึ่งการหยุดไลน์การผลิตอาจทำให้การผลิตช้าไปบ้าง
นายอภิชาติ กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ของบริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน เนื่องจากปีที่ผ่านมามีการประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ซึ่งแตกต่างจากปีนี้ รวมถึงการเติบโตนั้นจะสอดคล้องกับการเติบโตของภาพรวมอุตสาหกรรมที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ ต.ค.63 รวมถึงทิศทางตลาดโลกที่เริ่มฟื้นตัวได้
โดยผลประกอบการ 9 เดือนปี 63 ของ STANLY มีรายได้ 4,433 ล้านบาท และมีกำไรเพียง 70 ล้านบาท จากปี 62 ทั้งปีที่มีรายได้ 15,732 ล้านบาท และมีกำไร 1,997 ล้านบาท