อินเตอร์ไฮด์ ปลื้มออเดอร์ผลิตเบาะหนังรถยนต์จากค่ายพันธมิตรรายใหญ่คึกคัก เนื่องจากยอดจองรถยนต์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 ที่ผ่านมา ผลตอบรับดีเกินคาด ผู้บริหารมั่นใจหนุนผลงานปีนี้เข้าเป้า พร้อมเปิดแผนปี 64 ลุ้นธุรกิจใหม่ ช่วยผลักดันรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยว่า โค้งสุดท้ายปีนี้ธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ฟื้นตัวชัดเจน และมีคำสั่งให้ผลิตสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลจากการจัดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2020 ที่ผ่านมา จะเห็นว่ายอดจองรถยนต์ดีกว่าที่คาดการณ์กันไว้ เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการรถยนต์จากค่ายรถยนต์รายใหญ่จำนวนมาก ประกอบด้วย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด ซึ่งแต่ละแห่งล้วนเป็นพันธมิตรรายใหญ่ของบริษัทฯ ส่งผลให้มีออเดอร์การผลิตเบาะหนังรถยนต์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น น่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญช่วยสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
“งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2020 ที่ผ่านมา จะเห็นว่า ยอดจองรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถยนต์เอสยูวี และรถกระบะจากค่ายพันธมิตรอย่าง โตโยต้า ฮอนด้า และนิสสัน ยังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่มีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับออเดอร์ผลิตเบาะหนังรถยนต์เพิ่มตามไปด้วย และเป็นปัจจัยที่สำคัญช่วยผลักดันรายได้ปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้งสะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น แม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว” นายองอาจกล่าว
ด้าน นายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นขยายตลาดในส่วนของธุรกิจฟอกหนังรองเท้า และธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์โปรตีน GROW PLUS ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ยังเป็นช่วงเริ่มต้น และคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าจะช่วยสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทฯ ให้เติบโตได้ดีในอนาคต
“ปีหน้าเรามุ่งเน้นที่จะขยายธุรกิจฟอกหนังรองเท้ามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว 2 ราย อยู่ระหว่างการเจรจาอีก 2 ราย ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้ และในส่วนธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ยังคงเป็นรายได้หลัก และมั่นใจว่า ในปีหน้าจะเห็นความคืบหน้าของธุรกิจที่ลงทุนในปี 63 มากขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่บริษัทฯ รวมถึงจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอีกด้วย” นายวศิน กล่าว