ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ อัดงบลงทุน 400-500 ล้านบาท ปั้นธุรกิจอาหารผ่านแบรนด์วันเดอร์ฟู้ด พร้อมลุยธุรกิจเกี่ยวเนื่องแก๊ส LPG เช่น ซ่อมและผลิตถังแก๊ส หนุนรายได้เพิ่ม สร้างฐานธุรกิจแข็งแกร่ง "ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" ประกาศนำทัพเดินหน้าลุยต่อยอดธุรกิจไม่ยั้ง ตอกย้ำหุ้นผลงานเติบโตและจ่ายปันผลต่อเนื่อง
น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยถึงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปี 2564 ว่า กลุ่มบริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจธุรกิจอาหารที่จะเป็นธุรกิจที่ช่วยในการเพิ่ม margin ให้แก่กลุ่มบริษัทฯในอนาคต และธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลัก และเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์ “เวิลด์แก๊ส” ที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แบ่งเป็นใช้สำหรับลงทุนธุรกิจซ่อมถัง 100 ล้านบาท ลงทุนซื้อถังบรรจุแก๊ส 200-300 ล้านบาท และลงทุนในธุรกิจอาหาร 50 ล้านบาท ด้วยการขยายแบรนด์วันเดอร์ฟู้ด จากในเครือที่จัดตั้ง ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ ข้าวซอย Hungry Rabbit ร้านอาหาร Hyper Fine Dining ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ในชื่อ Table 38 และ Pi Kun โดยมีแผนต่อยอดธุรกิจอาหารแช่แข็ง ธุรกิจแคทเทอริ่ง และการขยายแฟรนไชส์ไปยังประเทศในแถบเอเชีย ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนสำรองเพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่ตั้งเป้าเติบโตทุกช่องทางในปี 2564 และเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักแบรนด์ “เวิลด์แก๊ส” ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรม LPG ในประเทศปี 2564 เชื่อว่า ยังคงทรงตัว เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องใช้และมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ส่วนราคาคาดว่ายังคงทรงตัว ไม่หวือหวามากนัก ขณะที่แนวโน้มปริมาณการขาย LPG ของบริษัทฯ คาดว่าจะอยู่ในระดับ 800,000 ตัน
ขณะที่ภาพการเติบโตของผลการดำเนินงาน ประเมินว่าจะทรงตัวจากปี 2563 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเชื่อว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากสัดส่วนการขายที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของจุดกระจายสินค้าที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
“กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดรายได้และสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง ตามแผนที่ได้วางไว้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทฯ พร้อมลุยต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจให้ครอบคลุม ครบวงจร จากเดิมมีเพียงธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซ LGP อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ ที่สำคัญเพื่อรักษาอัตราการทำกำไร และเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น และกระจายความเสี่ยงของธุรกิจในอนาคต โดยยังเน้นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักที่ทำอยู่คือ LPG เช่น การผลิตถัง และซ่อมถัง
ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ LPG คือ ธุรกิจอาหาร ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้ในอนาคต ซึ่งภาพของบริษัทฯ ต่อจากนี้จะเป็นในลักษณะ Energy Provider และ Energy Solution ดังนั้น จึงขอให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นว่า WP จะสามารถรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจ และเป็นหุ้นที่ผลการดำเนินงานเติบโต และปันผลได้อย่างต่อเนื่อง” น.ส.ชมกมล กล่าว