สองบริษัทชั้นนำเปิดโอกาสการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแนวใหม่ที่ถูกกฎหมายโปร่งใส ตอบโจทย์การทำธุรกรรมที่สะดวกสบายผ่านเว็บไซต์และสมาร์ทโฟน
SE Digital (เอสอี ดิจิทัล) ผู้ปฏิวัติตลาดทุนยุคใหม่ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล และ ERX (อีอาร์เอ็กซ์)ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มซื้อขายโทเคนดิจิทัลรายแรกของไทย ประกาศความพร้อมเปิดให้บริการซื้อขายโทเคนดิจิทัลเต็มรูปแบบปลายปีนี้พร้อมเจาะกลุ่มเป้าหมายนักลงทุนรุ่นใหม่ด้วยช่องทางการซื้อขายที่หลากหลายทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนมอบอิสระการซื้อขายที่คล่องตัวกว่าทั้งในตลาดแรกและตลาดรองพร้อมรองรับธุรกรรมดิจิทัลทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดย SE Digital จะเปิดรับลงทะเบียนนักลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SE Digital บนระบบปฏิบัติการ iOS ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปและมีกำหนดเปิดตัวแอปพลิเคชันบนระบบ Android ภายในเดือนมกราคม2564 ส่วน ERX ได้เปิดรับลงทะเบียนแบบสาธารณะผ่านทางเว็บไซต์ er-x.io เพื่อให้นักลงทุนสามารถเตรียมตัวเทรดแล้ว
หลังกระแสเงินคริปโตและการลงทุนกับโทเคนดิจิทัลหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนอย่างไร้การควบคุมจนสร้างความเสียหายทั้งในเรื่องการฉ้อโกงและประเด็นการฟอกเงิน ทำให้นักลงทุนอาจเกิดความไม่มั่นใจในการลงทุนกับสินทรัพย์ดิจิทัล จนกระทั่งมีการตราพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลพ.ศ. 2561 เพื่อจัดระเบียบสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยให้เป็นธุรกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายตรวจสอบได้ และมีการคุ้มครองนักลงทุน ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการการลงทุนกับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยส่วนหนึ่งของพระราชกำหนดฉบับนี้กำหนดให้การเสนอขายโทเคนดิจิทัลต้องดำเนินการผ่านICO Portal ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. เท่านั้น
นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SE Digital กล่าวว่า“ในฐานะ ICO Portal ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการก.ล.ต. เรามีความเชี่ยวชาญในการพิจารณาคัดเลือกโครงการของผู้ระดมทุน (Issuer)ที่มีศักยภาพ เพื่อทำการแปลงสินทรัพย์ของโครงการให้เป็นโทเคนดิจิทัล(Tokenization) ซึ่งจะมอบโอกาสในการลงทุนที่ถูกกฎหมาย โดยSE Digital มีพันธมิตรด้านกฎหมายคือบริษัท Baker & McKenzie ร่วมกันกำหนดโครงสร้างและองค์ประกอบต่าง ๆ ของธุรกรรมให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ที่ออกโดยสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเป็นการคุ้มครองนักลงทุนให้สามารถลงทุนในโทเคนดิจิทัลได้อย่างชัดเจนโปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน และช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกฉ้อโกง”
เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นปกติซึ่งต้องมีทั้งตลาดแรกและตลาดรอง สำหรับตลาดโทเคนดิจิทัลนอกจากจะมีผู้เล่นในตลาดแรกอย่าง SE Digital ซึ่งเป็น ICO Portal ที่เสนอขายโทเคนให้แก่นักลงทุนแล้วยังนำเสนอผู้เล่นในตลาดรองอย่าง ERX ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล(Digital Asset Exchange) เพื่อให้นักลงทุนมีช่องทางการซื้อขายโทเคนระหว่างกันได้ทุกวันตลอด24 ชั่วโมง โดยยังคงความน่าเชื่อถือไม่ต่างจากตลาดแรก โดย ERX เป็นบริษัทในเครือ Elevated Returns (ER) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการนำเสนอการลงทุนของโรงแรมThe St. Regis Aspen Resort ในสหรัฐฯ ผ่าน Aspen Coin ซึ่งสามารถระดมทุนได้มูลค่าสูงถึง 18 ล้านดอลลาร์ โดย ERX เป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต
ด้านนายปิ่นปราชญ์ จักกะพาก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ERX กล่าวว่า “ERX ดำเนินงานโดยคณะผู้บริหารซึ่งเป็นกลุ่มมืออาชีพที่มีประสบการณ์รวมกันกว่า60 ปีในธุรกิจการเงิน ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า ERX เป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าเชื่อถือมีการดำเนินธุรกิจที่เป็นไปตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 และยังจับมือเป็นพันธมิตรกับ SE Digital ซึ่งเป็น ICOPortal ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. เมื่อพิจารณาถึงความพร้อมในด้านต่างๆ แล้ว เราเชื่อมั่นว่าการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการซื้อขายที่ ERX จะได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนรุ่นใหม่มากขึ้นอย่างแน่นอน”
การลงทุนผ่านโทเคนดิจิทัลมีข้อได้เปรียบด้านความยืดหยุ่นที่มากกว่าการลงทุนในหุ้นปกติเนื่องจากสามารถกำหนดเงื่อนไขผลตอบแทนและประโยชน์ของโทเคนได้ตามความต้องการของผู้ระดมทุนและนักลงทุนโดยยังคงมีการคุ้มครองนักลงทุนไม่ต่างจากการลงทุนรูปแบบเดิม ๆและเมื่อมีพระราชกำหนดเป็นกฎหมายคุ้มครองเฉพาะ จึงส่งเสริมให้โทเคนดิจิทัลเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจปลอดภัย เข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้าง และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลมากที่สุด
อีกหนึ่งประเด็นที่นักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลหน้าใหม่วิตกกังวลมากก็คือเรื่องความปลอดภัยจากการถูกแฮ็กข้อมูลหรือถูก “ขโมย” โทเคนจากกระเป๋านั่นเอง
SE Digital ดำเนินการแปลงสินทรัพย์และดำเนินการเสนอขายโทเคนดิจิทัลบนเทคโนโลยีบล็อกเชนของTezos (XTZ) ซึ่งมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง พร้อมติดตั้ง 2ฟังก์ชันเสริมความปลอดภัยให้แก่ Wallet ของนักลงทุน ได้แก่ Whitelistซึ่งเป็นรายชื่อผู้ถือ Wallet ที่ผ่านการคัดกรองด้วยการระบุตัวตนKYC (Know-Your-Customer)โดยมีเฉพาะผู้ถือ Wallet ใน Whitelistเท่านั้นที่สามารถซื้อขายโทเคนระหว่างกันได้ ถือเป็นการป้องกันด่านแรกไม่ให้บุคคลภายนอกลิสต์เข้ามาแฮ็กข้อมูลและอีกหนึ่งฟังก์ชั่นคือ Clawback คือการดึงโทเคนที่ถูกขโมยกลับคืนสู่Wallet ของผู้ถูกขโมยเมื่อพิสูจน์แล้วว่าเกิดการขโมยโทเคนจริงเพื่อให้นักลงทุนมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการลงทุนผ่าน SE Digital