xs
xsm
sm
md
lg

“ลลิล” เผย 10 เดือนกวาด 5,300 ล้าน โต 15% มั่นใจสิ้นปียอดขาย 6,000 ล้าน ตามเป้าแม้เลื่อนเปิดโครงการใหม่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ลลิลฯ ยันตลาดอสังหาฯ กลับสู่ภาวะหดตัวตามปกติก จากช่วง 2-3 เดือนแรก หลังปลดล็อกดาวน์ตลาดคึกคักเสมือนฟื้นตัว ระบุผลกระทบโควิด-19 ยังส่งผลต่อธุรกิจบางกลุ่มฉุดกำลังซื้อต่อเนื่อง คาดทั้งปีตลาดรวมหดตัวมากกว่า 10% ยอมรับชะลอเปิดโครงการรอดูทิศทางตลาด แจงปี 63 เปิดตัว 7 โครงการ จากเป้าหมายเดิม 9-11 โครงการ ปลื้มยอดขาย 10 เดือน 5,300 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปี 6,000 ล้านตามเป้า แม้เปิดโครงการลดลง ล่าสุด บุกตลาดโซนตะวันตก กทม. เปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่า 1,450 ล้านบาท

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ถือว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จากช่วง 2-3 เดือนแรกหลังการปลดล็อคดาวน์ ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดกลับมาคึกคักเพราะการตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว ทำให้ตลาดรวมกลับมาขยายตัวเสมือนตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัวแล้ว ทั้งนี้ ในปัจจุบันสถานการณ์ตลาดยังชะลอตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อธุรกิจบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจการบิน โรงแรม และส่งออก และมีผลต่อกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าที่ทำงานในภาคธุรกิจดังกล่าว

ทั้งนี้ ตัวเลขการจดทะเบียนโครงการจัดสรรในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีตัวเลขลดลง 8-10% ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังหดตัวอยู่ ทำให้คาดว่าในปีนี้ตลาดรวมจะติดลบมากกว่า 10% อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูว่าในช่วง  2 เดือนสุดท้ายของไตรมาส 4 ตลาดจะฟื้นตัวกลับมาได้หรือไม่เนื่องจากในช่วงปลายปีถือเป็นช่วงไฮซีซัน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำผู้ประกอบการจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย เพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อ

จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ในปีนี้ลลิลฯ ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไปจากเป้าหมายเดิมที่มีแผนจะเปิดตัว 9-11 โครงการใหม่ มูลค่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งปีนนี้ ลลิลฯ ได้เปิดตัวไปแล้ว 7 โครงการ มูลค่า 5,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปิดตัวโครงการในทำเล กทม.-ปริมณฑลทั้งหมด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปีนี้ ลลิลฯ จะเปิดตัวโครงการใหม่ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อยอดขายให้ลดลง โดยผ่านมา 10  เดือน บริษัทมียอดขายแล้ว 5,300 ล้านบาท จากเป้า 6,200 ล้านบาทที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปี หรือเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15% และมีเป้ารับรู้รายได้ที่ 5,250 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ถือว่ายังเป็นไปตามเป้าหมายเดิม นอกจากนี้ บริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ในมือ 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้เป็นส่วนใหญ่

ทั้งนี้ ในส่วนของการเปิดตัวโครงการใหม่ ล่าสุด ลลิลฯ ได้เปิดขาย 2 โครงการใหม่ในทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ในจังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วย โครงการ ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ รัตนาธิเบศร์-บางใหญ่ ทาวน์โฮม 2 ชั้นบนพื้นที่โครงการ 41ไร่ จำนวน 457 ยูนิตราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท มูลค่ารวมโครงการ 900 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็น 6เฟสๆ ละ 70-80 ยูนิต มียอดขายแล้ว 80-90 ยูนิต โดยจะทยอยโอนในปีนี้ 60ยูนิต และโครงการไลโอ บริสซ์ วงแหวน-ปิ่นเกล้า (พระราม 5) ทาวน์โฮม 2ชั้น บนพื้นที่ 24 ไร่ จำนวน 283 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาทมูลค่ารวม 550 ล้านบาท แบ่งพัฒนาเป็น 4 เฟส ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70 ยูนิต

สำหรับทำเลย่านบางใหญ่ นนทบุรี ถือว่าเป็นทำเลศักยภาพที่มีการขยายตัวของดีมานด์ที่อยู่อาศัยแนวราบ จากการเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมที่หนัมาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบแทนห้องชุด ซึ่งจากข้อมูลศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า จังหวัดนนทบุรีถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีปริมาณการเปิดตัวที่อยู่อาศัยใหม่สูงสุดในช่วงครึ่งแรกของปี 63 โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการจัดสรรแนวราบระดับราคา 2-5 ล้านบาท ทั้งนี้ ซัปพลายในนนทบุรีโดยเฉลี่ยต่อปีมีซัปพลายใหม่เกิดขึ้น 18,000-20,000 ยูนิต และมีอัตราระบายออกประมาณ 10,000 ยูนิตต่อปี อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจโครงการในจังหวัดนนทบุรี พบว่า ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีซัปพลายใหม่เข้าสู่ตลาดเพียง 10,000 ยูนิต ซึ่งถือว่าลดลงค่อนข้างมากเนื่องจากผู้ประกอบการในพื้นที่มีการชะลอการพัฒนาโครงการเพื่อรอดูทิศทางการประกาศของผังเมืองฉบับใหม่


กำลังโหลดความคิดเห็น