บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปครบวงจรของประเทศไทย พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ 29 ต.ค.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IP0 1,672 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SFT”
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า mai ยินดีต้อนรับ บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SFT” ในวันที่ 29 ตุลาคม 2563
SFT ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉลากฟิล์มหดรัดรูปสำหรับบรรจุภัณฑ์ของสินค้าชนิดต่างๆ ให้แก่ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น มีบริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ การเลือกใช้วัตถุดิบ การออกแบบฉลาก รวมถึงการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเทคนิคการหดตัวของฉลากฟิล์มเพื่อให้บรรจุภัณฑ์มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรับออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิต และนำเข้าผลิตภัณฑ์ฟิล์มยืดที่ใช้รัดสินค้าบนพาเลทเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าของบริษัท
ทั้งนี้ SFT มีทุนชำระแล้ว 220 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 320 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) โดยเสนอขายให้บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และผู้มีอุปการคุณของบริษัท รวมจำนวน 78 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน จำนวน 30 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวนไม่เกิน 12 ล้านหุ้น ในระหว่างวันที่ 19-22 ตุลาคม 2563 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.80 บาท บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 456 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,672 ล้านบาท โดยการกำหนดราคาหุ้น IPO ใช้วิธีสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book building) ของผู้ลงทุนสถาบัน ทั้งนี้บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) โดยบริษัทมีกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2562-30 มิถุนายน 2563) เท่ากับ 59.71 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.14 บาท และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ประมาณ 27.14 เท่า มี บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ด้าน นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) (SFT) เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ของผู้บริหารในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปกว่า 12 ปี SFT มีทีมงานที่มีความมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในโรงงานผลิตแห่งใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตในตลาดฟิล์มหดรัดรูปเดิมและรองรับตลาดใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ SFT มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มนายซุง ชง ทอย ถือหุ้น 47.27% และกลุ่มปิยะตรึงส์ ถือหุ้น 25.45% บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท