"ชาญอิสสระ" เผยเทรนด์อสังหาฯ ยุคโควิด-19 เป็นตลาดของของผู้ซื้อ มีดีลซื้อบิ๊กล็อตจากฟากเศรษฐีคนไทยและเอเยนต์ สนโครงการทั้งแบบพร้อมโอน และอยู่ระหว่างก่อสร้าง มูลค่า 200-300 ล้านบาท ระบุเป้าหมายธุรกิจทำโปรแรงเร่งระบายสต๊อก ดึงเงินสดเข้ามาให้มาก ขน 9 โครงการจัดใหญ่ในแคมเปญ "ISSARA DAY Yes ทุกดีล" ลดสูงสุด 38% ฟรีส่วนกลาง 10 ปี ลุ้นดันเป้าขายสิ้นปีเพิ่ม 300-400 ล้านบาท
นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (CI) เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 ว่า ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น และช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยังเจอการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ปัญหาการเมือง การชุมนุม ก็ส่งผลกระทบแน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งการชุมนุมนั้น เราต้องดูวิธี กับประเด็น และการควบคุมที่ดี จะมีผลดีกับประเทศไทยในระยะยาว ทุกๆ คนต้องช่วยกัน เป้าหมายทุกคนก็อยากให้ประเทศไทยดีขึ้น ซึ่งยอมรับผลจากการชุมนุมทำให้ความไม่แน่นอนของประเทศชาติมีเหมือนกัน ทำให้คนกลัวและชะลอการซื้อและการลงทุนได้
สำหรับแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ นั้น พบว่า ตลาดบ้านเดี่ยวระดับ 10-20 ล้านบาท ยังมียอดขายที่ดี เนื่องจากได้รับผลในเชิงบวกจากสถานการณ์โควิด-19 พฤติกรรมการอยู่อาศัยของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซึ่งในส่วนของบริษัทแม้จะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี แต่ยอดขายและตัวเลขการเข้าเยี่ยมชมโครงการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้จะไม่หวือหวาเหมือนกับตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 10-20 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางภาวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว กลับยังพบกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีเงินเก็บและมีกำลังซื้อสูง สนใจซื้อโครงการแบบเหมาล็อต โดยขณะนี้ ทางบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ซื้อ 2-3 ราย ที่จะซื้อแบบบิ๊กล็อต มีทั้งแบบกลุ่มที่มาเป็นแบบครอบครัว และจากตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ (เอเยนต์) ที่จะเข้ามาซื้อในจำนวนยูนิตที่มาก
"ทุกคนต้องการกระแสเงินสด ซึ่งมีทั้งรูปแบบของการขายโครงการเข้ากองทรัสต์ของศรีพันวา หรือการทำโปรโมชันเพื่อเร่งยอดขาย เพื่อดึงกระแสเงินสดเข้ามาให้มากที่สุด อย่างเช่น การเจรจาบิ๊กล็อตมูลค่า 200-300 ล้านบาท ประมาณ 6-7 ยูนิต เนื่องจากลูกค้าจะมองเรื่องการลงทุน ซึ่งผู้ซื้อจะได้ฐานราคาที่ถูกลง ได้ส่วนต่างของราคาอสังหาริมทรัพย์ บางรายมองอสังหาฯ ที่แตกต่างกัน เช่น อาจจะมองโครงการที่พร้อมเข้าอยู่ได้เลย หรือมองโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง บิ๊กล็อตที่เจรจามีทั้งแบบโอนได้เลย และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการ ซึ่งจะอยู่ในทำเลต่างจังหวัด"
สำหรับในช่วงโค้งส่งท้ายปี 63 บริษัทฯ ยังคงเน้นทำตลาดเชิงรุก เพื่อสร้างสีสันและระบายสต๊อกอสังหาฯ ที่มีอยู่ แม้ว่าจะมีปัจจัยลบหลายปัจจัยเข้ามากระทบธุรกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค ล่าสุด ได้เปิดตัวแคมเปญแรง "ISSARA DAY Yes ทุกดีล" โดยขน 9 โครงการคุณภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ร่วมจัดแคมเปญมอบส่วนให้ลูกค้าได้เลือกในสไตล์ที่ถูกใจ กับข้อเสนอ Finance Sabai Sabai ด้วยการมอบส่วนลดสูงสุดถึง 38% เช่น โครงการดิ อิสสระ เชียงใหม่ ฟรีค่าส่วนกลางสูงสุด 10 ปี เช่น ในโครงการอิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9 หรือลูกค้าสามารถเลือกข้อเสนอ Lifestyle Chill Chill เลือกรับรถยนต์ Audi A6 Avant 55 TFSI Quattro S-Line เป็นต้น นอกจากนี้ ลูกค้าที่ลงทะเบียนออนไลน์จะได้รับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พ.ย.63 โดยวางเป้ายอดขายในเบื้องต้นประมาณ 300-400 ล้านบาท
ในส่วนของแผนเปิดตัวโครงการใหม่จะไม่เร่งเปิดตัวมากนัก แต่จะเน้นวิเคราะห์แต่ละโครงการให้ดี โดยจะเปิด 1 โครงการ บริเวณเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บนเนื้อที่ 5 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการรูปแบบคอนโดมิเนียมตากอากาศ จำนวน 4-5 อาคาร ราคาเริ่มต้นที่ 1.7-2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 5-50 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายในรอบลูกค้า VVIP ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
