xs
xsm
sm
md
lg

FPT เดินหน้าผสาน 3 ธุรกิจอสังหาฯ ชู “ONE PLATFORM” เป้า 3 ปีขึ้น TOP 3

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
เฟรเซอร์สฯ เดินหน้าผสาน 3 ธุรกิจ ที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม สร้าง One Platform ที่ผสาน 3 ธุรกิจ ปั้นอสังหาฯ ครบวงจรรายแรก เน้นพัฒนาธุรกิจศักยภาพสูงทุกกลุ่มเป็นหนึ่งเดียวกัน หวังสร้าง Ecosystem ทางธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน กระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ คาด 3 ปีเพิ่มสัดส่วนพอร์ตรายได้ประจำ 30-40% จากเดิมรายได้ประจำ 20% มั่นใจสิ้นปีรายได้รวม 20,000 ล้านบาท หลัง 9 เดือนกวาดรายได้ 14,000-15,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้า 3 ปีขึ้น TOP 3 อสังหาฯ

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT กล่าวว่า ได้ผสาน 3 กลุ่มธุรกิจไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตทางธุรกิจ ทั้งนี้ ด้วยพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรของ FPT จะทำให้สามารถขยายขีดความสามารถในการส่งมอบสินค้าและบริการ พร้อมข้อเสนอทางการตลาดที่ต่างจากผู้พัฒนาอสังหาฯ ในตลาด ด้วยแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง FPT จะนำความเข้าใจลูกค้าและความเชี่ยวชาญในธุรกิจและตลาดอสังหาฯ

“หัวใจสำคัญในการก้าวสู่ความสำเร็จ คือ กลยุทธ์ One Platform ที่ทำให้สามารถให้บริการด้านอสังหาฯ ครอบคลุมตรงโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยการรวมกันบนแพลตฟอร์มเดียว จะสร้างความมั่นคงให้แก่บริษัทฯ จากการมีรายได้หลายช่องทาง และรายได้ประจำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

โดยในช่วง 3 ปีจากนี้ FPT จะดำเนินแผน ONE-TO-THREE ซึ่งหมายถึง “ONE platform TOwards being a trusted brand and the top THREE in all asset classes” หรือการรวมธุรกิจเป็นหนึ่งเดียวด้วยแพลตฟอร์มอสังหาฯ ครบวงจร เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำระดับ Top 3 ของทุกกลุ่มธุรกิจในปี 66

ปัจจุบันการผสาน 3 ธุรกิจเข้าด้วยกัน ทำให้บริษัทมีสินทรัพย์รวม 100,000 ล้านบาท ซึ่งจากพอร์ตดังกล่าวสามารถแบ่งออกเป็นสินทรัพย์ซื้อมา-ขายไป ประมาณ 70% ส่วนสินทรัพย์เพื่อเช่าซึ่งเป็นกลุ่มรายได้ประจำมีสัดส่วน 20-25% อย่างไรก็ตาม คาดว่าพอร์ตสินทรัพย์ในกลุ่มสร้างรายได้ประจำ เช่น คลังสินค้า-โรงงานเพื่อเช่า และออฟฟิศเช่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% จาการขยายการลงทุนในธุรกิจในปีหน้า โดย FPT ตั้งเป้าว่าในระยะ 3-4 ปีจากนี้จะมีพอร์ตสินทรัพย์รายได้ประจำเพิ่มขึ้นเป็น 30-40%

“เชื่อว่าเป้าหมายรายได้ของผู้ประกอบการอสังหาฯ ทุกรายคือการมีพอร์ตสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำในสัดส่วน 80% และมีพอร์ตสินทรัพย์ประเภทซื้อมาขายไปอยู่ที่ 20% ซึ่งเป็นไปในรูปแบบเดียวกับบริษัทระดับโลกในต่างประเทศ เนื่องจากเป็นการลดความเสี่ยงและผลกระทบด้านรายได้ของบริษัทเมื่อมีเหตุวิกฤตด้านต่างๆ เข้ามากระทบ”


นายธนพล กล่าวว่า ในปีนี้ เฟรเซอร์ฯ ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวม 20,000 ล้านบาท โดย 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้ 14,000-15,000 ล้านบาท ซึ่งมาจาก กลุ่มธุรกิจ “โฮม” ซึ่งดำเนินธุรกิจที่อยู่อาศัยแนวราบ กทม.-ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ โดยมีสินค้าที่อยู่ระหว่างการขาย 59 โครงการ ครอบคลุมทุกระดับราคา ภายใต้แบรนด์ ‘โกลเด้น’ มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 70,000 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้ 11,100 ล้านบาท

ขณะที่กลุ่มธุรกิจ “อินดัสเทรียล” ดำเนินธุรกิจอสังหาฯ เพื่อการอุตสาหกรรมแบบครบวงจร มีโรงงานและคลังสินค้า ทั้งแบบพร้อมให้เช่า และแบบสร้างตามความต้องการของลูกค้า ในทำเลยุทธศาสตร์กว่า 50 ทำเล ปัจจุบันมีพื้นที่โรงงานรวม 1.2 ล้านตารางเมตร (ตร.ม.) พื้นที่คลังสินค้า 1.8 ล้าน ตร.ม. หรือมีพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการ 3 ล้านตร.ม. และมี รายได้ 9 เดือน1,700 ล้านบาท

ส่วนกลุ่มธุรกิจ “คอมเมอร์เชียล” อสังหาฯเชิงพาณิชยกรรม ประกอบด้วย อาคารสำนักงานให้เช่า รีเทล โรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมน รวมถึงโครงการมิกซ์ยูส เช่น อาคารโครงการสามย่านมิตรทาวน์ อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ อาคารสาทรสแควร์ อาคารปาร์คเวนเชอร์ ปัจจุบัน เฟราเซอร์ฯ มีอาคารสำนักงาน และโครงการมิกซ์ยูสรวม 5 แห่ง รวมพื้นที่ 240,000 ตร.ม. และมีห้องในโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ จำนวน 1,100 ห้อง โดย มีรายได้ 9 เดือน (มกราคม-กันยายน) รวม 1,200 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ และสิทธิการเช่าอสังหาฯ เพื่ออุตสาหกรรม (FTREIT) ซึ่งเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์มูลค่ามากกว่า 42,000 ล้านบาท โดยมี โรงงานและคลังสินค้ารวม 620 ยูนิต


กำลังโหลดความคิดเห็น