xs
xsm
sm
md
lg

SCN ส่ง บ.ย่อยลุยโซลาร์รูฟท็อป

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สแกน อินเตอร์ ส่ง "สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์" บริษัทย่อยลุตลาดโซลาร์รูฟท็อป เผยมลพิษทางอากาศทั่วโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง “พลังงานจากแสงอาทิตย์” หรือโซลาร์เซลล์ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์พลังงานที่เข้ามาบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตตั้งแต่ระดับครัวเรือนจนถึงในอุตสาหกรรมใหญ่ๆของโลก เป็นพลังงานตามธรรมชาติที่ดีที่สุด และบริษัทพร้อมให้คำปรึกษาแก่ทุกภาคส่วนที่สนใจ

ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN และกรรมการ บริษัท สแกน แอด
วานซ์ พาวเวอร์ จำกัด หรือ SAP กล่าวว่าปัจจุบันปัญหามลพิษทางอากาศทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าวิตก แทบทุกองค์กรต่างตื่นตัวกับการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ในประเทศไทยเองก็เริ่มมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งจากทางภาครัฐและเอกชนหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานทดแทนกันมากขึ้น เพราะเป็นพลังงานสะอาดและมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินมนุษย์น้อย ด้าน “พลังงานจากแสงอาทิตย์” หรือโซลาร์เซลล์ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์พลังงานที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงในอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ของโลก ด้วยระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) เป็นพลังงานตามธรรมชาติที่ดีที่สุด มาจากความร้อนของดวงอาทิตย์ จัดว่าเป็นพลังงานที่สะอาด และไม่มีวันหมดไป

ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดของประเทศไทย แต่มักมีการตั้งคำถามเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ได้รวบรวมข้อดีของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ไว้เพื่อให้เห็นแนวทางและง่ายต่อการตัดสินใจสำหรับติดตั้งมากยิ่งขึ้นไว้ 5 ข้อ ดังนี้

1.ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่หน่วยงาน หรือโรงงานได้ในระยะยาว เนื่องจากสามารถผลิต
ไฟฟ้าใช้เองได้ และเป็นการยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ระบบแสงสว่างได้อีกด้วย

2.มีพลังงานสะอาดใช้อย่างยั่งยืน ใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งไม่มีวันหมด ทำให้เรามีพลังงานสะอาดใช้อย่างยั่งยืน

3.เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปลดปล่อยพลังงานก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะไม่มีการใช้เชื้อเพลิงอื่นๆ ในการเผาไหม้ จึงไม่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

4.มีการรับรองประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้งานอย่างต่อเนื่อง พร้อมดูแลบำรุงรักษา ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มใช้งานจนถึงวันสิ้นสุดสัญญา เพื่อให้ได้พลังงานไฟฟ้าตามที่คาดหวังอย่างต่อเนื่อง และเต็มประสิทธิภาพ

5.ใช้เงินลงทุนเพียง 0 บาท ด้วยโมเดลแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) เป็นการทำสัญญาซื้อ-ขาย พลังงานไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานเอกชนกับเอกชน

ทั้งนี้ การเลือกผู้ติดตั้งระบบก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน หากเราเลือกผู้ติดตั้งที่ไม่ดี เรื่องความคุ้มค่าก็สามารถตัดทิ้งไปได้เลย บริษัทสแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาในอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนของประเทศไทยแบบครบวงจร ได้รับความไว้วางใจให้ดำเนินการติดตั้งระบบ รวมไปถึงประสิทธิภาพในการใช้งานให้แก่บริษัทฯ ชั้นนำหลายแห่ง โดยปัจจุบันทางบริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด (SAP) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 12 MW และคงเป้าหมายกำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 20 MW ในปลายปีนี้

สำหรับผู้ประกอบการ หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการลดต้นทุนด้านไฟฟ้า หรือต้องการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) สามารถขอคำปรึกษาและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 09-8159-1495


กำลังโหลดความคิดเห็น