"ศิรกร" ปิดเทรดวันแรกที่ 1.20 บาท เพิ่มจากราคาไอพีโอที่กำหนดไว้หุ้นละ 0.80 บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 873.81 ล้านบาท ผู้บริหารปลื้มกระแสตอบรับดีจากนักลงทุน ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีของหุ้นไอพีโอน้องใหม่ เดินหน้าขยายงานตามแผน
หุ้นบริษัท ศิรกร จำกัด (มหาชน) หรือ SK เข้าเทรดเป็นวันแรก โดยพบว่าราคาหุ้นเปิดเทรดที่ 1.60 บาท หรือ 100% จากราคาไอพีโอ 0.80 บาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 2.00 บาท ต่ำสุดที่ 1.20 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 1.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 873.81 ล้านบาท
นายภากร ตั้งนุกูลกิจ กรรมการบริษัทและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ SK เปิดเผยว่า หุ้น SK เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกเปิดทำการซื้อขายที่ระดับ 1.60 บาท เพิ่มขึ้น 100% จากราคา IPO ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยพิจารณาจากช่วงเปิดเสนอขายหุ้นไอพีโอ ระหว่างวันที่ 28-30 กันยายนที่ผ่านมา หุ้น “SK” ได้กระแสตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีของหุ้นไอพีโอน้องใหม่
สำหรับศักยภาพการดำเนินธุรกิจ จุดเด่นของ SK ที่ได้เปรียบผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน คือ การที่บริษัทฯ มีโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีต จำนวน 6 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่การจำหน่ายทั่วประเทศ ทำให้ได้เปรียบด้านต้นทุนการขนส่ง และมีการบริหารจัดการต้นทุนวัสดุก่อสร้างในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างได้อย่างดี ประกอบกับบริษัทฯ ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่คู่ค้ารายอื่นๆ ที่มีความต้องการในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้ ซึ่งทำให้เป็นการเพิ่มยอดขาย ในส่วนของการขายผลิตภัณฑ์คอนกรีตได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทฯ วางกลยุทธ์การเติบโตผ่านธุรกิจรับเหมาเฉพาะทางเป็นหลัก ทั้งธุรกิจรับเหมา งานสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโยธา ขณะเดียวกัน แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการเพิ่มการเข้าถึงและเพิ่มประสิทธิภาพระบบไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ดำเนินงานรับเหมาสายส่งขนาด 230 KV ผ่าน Consortium โดยหลังจากที่โครงการดังกล่าวเสร็จสิ้น บริษัทฯ คาดจะเข้าประมูลงานขนาด 230 KV ได้ด้วยตนเอง เปิดโอกาสในการรับงานมากขึ้นในอนาคต
“SK เตรียมประมูลงานรับเหมาระบบสายส่ง ขนาด 230 KV ของ กฟผ. มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท หลังจากที่โครงการ Consortium เสร็จสิ้น ซึ่งในแต่ละปี กฟภ. และ กฟผ. มีการขยายสายส่งไฟฟ้า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาประเทศด้านพลังงานของประเทศไทย และคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะสามารถเข้าประมูลงานขนาดใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะงานรับเหมาระบบสายส่ง ขนาด 500KV”
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า บมจ. ศิรกร (SK) กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ของ SK ในวันนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และเชื่อมั่นว่าธุรกิจมีศักยภาพการเติบโตอย่างโดดเด่น ประกอบกับการที่กลุ่มบริษัทฯ มีประสบการณ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้การันตีที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความเชื่อมั่นของกลุ่มลูกค้า ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
