xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นโค้งสุดท้ายปี 63 ยังมืดมน / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหุ้นปิดฉากงวด 9 เดือนแรกปีนี้ไปแล้ว โดยนักลงทุนสะบักสะบอมกันถ้วนหน้า เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉุดดัชนีหุ้นดิ่งลงอย่างยืดเยื้อนับจากต้นปี และแม้จะย่างเข้าสู่โค้งสุดท้าย แต่ยังไม่มีสัญญาณว่า บรรยากาศการลงทุนจะกลับมาคึกคัก

ดัชนีหุ้นปิดระดับ 1,237.04 จุด ลดลง 382.80 จุด หรือลดลง 21.69% เมื่อเทียบกับจุดปิดสิ้นปี 2562 ที่ระดับ 1,579.84 จุด

นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นอย่างหนัก โดยมียอดขายหุ้นสะสมสุทธิตลอด 9 เดือนจำนวนทั้งสิ้น 277,673.98 ล้านบาท และมีแนวโน้มว่าจะขายหุ้นทุบสถิติปี 2561 ซึ่งขายหุ้นทิ้งจำนวน 2.84 แสนล้านบาท

แม้ประเทศไทยจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19” ได้ดี จนได้รับคำชมเชยจากทั่วโลก แต่ ตลาดหุ้นกลับทรุดหนักกว่าหลายประเทศที่ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ได้ เนื่องจากมีปัญหาภายในซ้ำเติม

เศรษฐกิจไทยมีรายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่รายได้หลักทั้ง 2 ด้าน ถูกผลกระทบจาก “โควิด-19” โดยตรง ทำให้เศรษฐกิจซบเซาอย่างหนัก นอกจากนั้น ยังมีปัญหาการเมืองภายในบ่อนทำลายความมั่นใจของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

แต่ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นไม่สามารถผงกหัวขึ้นมาได้ เกิดจากแรงขายของต่างชาติ และเป็นการขายหลายปีติดต่อ โดยปีนี้มีแนวโน้มจะขายหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์

ฝ่ายค้าเงินของธนาคารกรุงไทยประเมินว่า ใน ช่วงโค้งสุดท้ายหรือไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ต่างชาติอาจจะขายหุ้นออกอีกประมาณ 30,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งหากรวมจากการขาย 9 เดือนแรก ปีนี้ต่างชาติอาจขายหุ้นทิ้งรวมทั้งสิ้นกว่า 300,000 ล้านบาท 

ฝ่ายค้าเงินกรุงไทย ระบุว่า ต่างชาติจะกลับมาลงทุนใหม่เมื่อมีสัญญาณเศรษฐกิจฟื้น แต่เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มทรุดต่อไป ความหวังที่ต่างจากจะกลับมาจึงมองไม่เห็น โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้

การที่ต่างชาติเทขายหุ้นมาหลายปีติดต่อ จนยอดขายหุ้นสะสมทะลุ 5 แสนล้านบาท เนื่องจากประเมินว่า เศรษฐกิจไทยไม่สดใส ตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะทรุดลง จึงลดความเสี่ยง โดย เคลื่อนย้ายเงินออกจากตลาดหุ้นไทย นำเงินไปลงทุนด้านอื่นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า 

แต่นักลงทุนในประเทศมีมุมมองที่แตกต่างจากต่างชาติ โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงกลับมอง เป็นโอกาสในการซื้อหุ้นต้นทุนต่ำ และไม่คิดว่าตลาดหุ้นจะเลวร้าย จึงทยอยช้อนซื้อหุ้นเก็บสะสมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้นักลงทุนรายย่อยเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ ซื้อหุ้นแล้ว 207,190.46 ล้านบาท

การที่นักลงทุนในประเทศเข้าไปช้อนซื้อหุ้น เป็นการเปิดโอกาสให้ต่างชาติสามารถขายหุ้นได้ในราคาที่ดี ขณะที่นักลงทุนในประเทศต้องแบกหุ้นต้นทุนสูงไว้ และปัจจุบันขาดทุนกันทุกหย่อมหญ้า

ย่างเข้าสู่โค้งสุดท้ายปี 63 แล้ว แต่ตลาดหุ้นยังถูกปกคลุมด้วยข่าวร้าย ทั้งจากภายในและภายนอก ขณะที่ข่าวดีขาดแคลน นักลงทุนต่างชาติก็ไม่มีวี่แววที่จะกลับมา และยังปักหลักขายต่อเนื่อง โดยวันส่งท้ายงวดไตรมาสที่ 3 ถล่มขายอีกกว่า 4 พันล้านบาท ฉุดดัชนีหุ้นดิ่งลงกว่า 20 จุด

อีกเพียง 3 เดือน จะปิดฉากปี 63 แล้ว แต่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยังเต็มไปด้วยความมืดมน และมีแนวโน้มจะเป็นอีกปีที่ใครเข้ามาในตลาดหุ้นแล้ว "จนลง"






กำลังโหลดความคิดเห็น