กลุ่มบิวท์ฯ ยอมรับวิกฤตเศรษฐกิจฉุดลูกค้าชะลอแผนสร้างบ้าน มองบวกในวิกฤตยังมีโอกาส เชื่อตลาดทยอยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ย้ำการสร้างแบรนด์เสริมแกร่งธุรกิจสู้ยุคโควิด-19 ชี้ตลาดการแข่งขันที่สูงเป็นโอกาสทองผู้บริโภคอย่างแท้จริง
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างรุนแรง รวมทั้งประเทศไทยด้วย โดยในส่วนของธุรกิจรับสร้างบ้านก็เป็นหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับตลาดบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมแล้ว ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านถือว่าได้รับผลกระทบไม่รุนแรงมากนัก เพราะไม่มีต้นทุนที่ดินและสาธารณูปโภค ประกอบกับลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่ม Real Demand ที่มีการเตรียมพร้อมและวางแผนการปลูกสร้างบ้านล่วงหน้า มีการซื้อที่ดินเตรียมไว้ ผลกระทบที่ได้รับจึงเป็นเรื่องของการชะลอการตัดสินใจออกไปก่อน แต่ยังเชื่อว่าความต้องการสร้างบ้านที่แท้จริงยังมีอยู่
“ช่วงเกิดวิกฤตในไตรมาสแรก กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ มีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการกว่า 180 หลัง ทำให้ 6 เดือนที่ผ่านมา บิวท์ฯ มีงานอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าผลประกอบการในปีนี้คงได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 64 นี้ ก็คงจะต้องส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งหากเราได้รับวัคซีนภายในสิ้นปีนี้หรือไม่เกินต้นปีหน้า ทำให้เราสามารถเปิดประเทศ ทำการส่งออก ค้าขาย และรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวดีขึ้น แต่จะคาดการณ์ให้กลับไปฟื้นตัวเหมือนก่อนช่วงมีโควิด-19 คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 2-3 ปี”
นายสุธี กล่าวว่า วิกฤตในขณะนี้หากมองอีกมุมถือว่าเป็นโอกาสของธุรกิจรับสร้างบ้านในเรื่องการปรับตัวและการสร้างแบรนด์ เพราะถ้าบริษัทใดมีการสร้างแบรนด์อย่างแข็งแกร่ง เป็นที่น่าเชื่อถือของลูกค้า แม้เกิดวิกฤตก็ยังสามารถได้รับความไว้วางใจ สามารถขายสินค้าได้ และไม่สูญหายไปจากการรับรู้ของลูกค้า ด้านสถานะการเงินก็เช่นกัน หากบริษัทมีความพร้อม การเงินมีความเข้มแข็ง ก็จะสามารถรักษาทีมงานคุณภาพไว้ได้โดยไม่สูญเสียทรัพยากรบุคคลเลย รวมทั้งยังมีเม็ดเงินมากพอในการทำตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ทั้งการโฆษณาผ่านช่องทางต่างและสื่อต่างๆ ในช่วงวิกฤตได้ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ วิกฤตดังกล่าวมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค แต่ช่วงเวลานี้ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมและเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคที่มีความพร้อมในการสร้างบ้าน เพราะนอกจากจะได้บ้านที่มีคุณภาพแล้ว ยังมีโอกาสสร้างบ้านในราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้น เนื่องจากตลาดมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งการจัดโปรโมชันราคาพิเศษ การออกแบบ พัฒนาแบบบ้านใหม่ การคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ตลอดจนการรักษาคุณภาพและมาตรฐานงานก่อสร้างเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค โดยผู้บริโภคจะสามารถคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของตัวเองได้ อีกทั้งในส่วนของการขอสินเชื่อก็เป็นโอกาสที่ดีในการได้ดอกเบี้ยต่ำลง เพราะธนาคารหลายแห่งได้มีการปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อ
ในส่วนของกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ นั้นตลอดทั้งปีนี้ได้วางกลยุทธ์และจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังปลดล็อกดาวน์ที่ผ่านมา และล่าสุด ได้เตรียมออกบูทงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2020 วันที่ 1-4 ต.ค.นี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี