สยามเวลเนสกรุ๊ป เตรียมขอย้ายเข้าไปซื้อขายใน SET หวังเปิดให้นักลงทุนเข้าลงทุนในหุ้น SPA ได้มากขึ้น อีกทั้งธุรกิจยังเติบโตได้อีก อ่อยปีนี้รายได้ต่ำกว่าปีก่อนที่ทำไว้ 1.4 พันล้านบาท ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และรัฐใช้มาตรการปิดเมือง ทำให้บริษัทปิดสาขาทั้งหมด 60 แห่งทั่วประเทศในไตรมาส 2 เชื่อจากนี้ฟื้นตัวได้ดีขึ้น
นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อย้ายเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จากปัจจุบันที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เพราะจะเปิดโอกาสให้นักลงทุน หรือกองทุนสามารถเข้ามาลงทุนได้มากขึ้น ขณะที่ทิศทางของธุรกิจยังสามารถเติบโตได้ในอนาคต
สำหรับรายได้ปีนี้ได้ปรับลดลงจากปีก่อนที่ทำไว้ 1.4 พันล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐใช้มาตรการปิดเมือง (Lockdown) ส่งผลให้บริษัทปิดสาขาทั้งหมด 60 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และขณะนี้ทยอยกลับมาเปิดให้บริการสาขาต่างๆ มากกว่า 70% ที่มีอยู่ พร้อมกับทำการตลาดให้ผู้ใช้บริการชาวไทยมากขึ้น ด้วยการตลาดผ่านระบบออนไลน์ ผ่านช่องทาง Influencer ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมียอดใช้บริการแล้ว 40% ทำให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา
"เชื่อว่าต่อจากนี้จะเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น แต่ต้องรอดูว่าในไตรมาส 3 นี้จะเริ่มมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเข้ามาหรือไม่ รวมถึงต้องติดตามการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 และนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของภาครัฐ ซึ่งอาจจะมีผลทำให้ผลประกอบการของบริษัทสามารถพลิกมีกำไรได้" นายวิบูลย์กล่าว
อย่างไรก็ดี บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการนำผลิตภัณฑ์สินค้าที่ให้บริการในสปาออกวางจำหน่ายทางออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดี จึงทำให้คาดว่าใน 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเพิ่มเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6% ซึ่งหลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผู้ประกอบการสปาหลายรายได้รับผลกระทบ และนำธุรกิจมาเสนอขายให้แก่บริษัทหลายราย ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการเข้าซื้อกิจการนั้นๆ