xs
xsm
sm
md
lg

TASCO ตกสวรรค์ / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การแจ้งยกเลิกการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลา กลายเป็นข่าวร้ายชิ้นใหญ่ ทำให้หุ้นบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ถูกถล่มขายทันทีที่เปิดตลาดรับสัปดาห์ใหม่ จนราคาหุ้นทรุดลงติดฟลอร์สนิท

TASCO แจ้งตลาดหลักทรัพย์หลังปิดการซื้อขายหุ้น เมื่อวันศุกร์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า โรงกลั่นของบริษัทฯ ในเมือง KAMAMAN ประเทศมาเลเชีย ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2550 โดยใช้น้ำมันดิบหนักจากประเทศเวเนซุเอลา ในสัดส่วน 90% ของน้ำมันดิบที่ใช้กลั่นทั้งหมด

แต่ต้นปี 2563 ได้รับการร้องขอจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้หยุดซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา และให้มีผลภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และเตือนว่า บริษัทฯ อาจถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ หากไม่ปฏิบัติตามที่ร้องขอ บริษัทฯ จึงจะหยุดซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา และจะปิดโรงกลั่นที่เมือง KAMAMAN เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะหาน้ำมันดิบมาทดแทนเวเนซุเอลาได้

สำหรับผลิตภัณฑ์ยางมะตอยที่ผลิตได้จากโรงกลั่นเมือง KAMAMAN คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของผลิตภัณฑ์ยางมะตอยที่ผลิตได้ทั้งหมด การปิดโรงกลั่นจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจ โดยบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาบริหารความเสี่ยงอยู่หลายแผน

ราคาหุ้น TASCO วันจันทร์ที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เปิดการซื้อขายที่ราคาต่ำสุดติดพื้น 15% ทันที โดยเปิดที่ 20.40 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือลดลง 14.64% และยืนราคาต่ำสุดจนปิดการซื้อขาย โดยมีคำสั่งเสนอขายในราคาติดฟลอร์ค้างอยู่อีกกว่า 107 ล้านหุ้น

การประกาศยกเลิกซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา และปิดโรงกลั่นที่เมือง KAMAMAN ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ยางมะตอยที่จะจำหน่ายลดฮวบลงประมาณครึ่งหนึ่ง และส่งผลกระทบต่อรายได้โดยตรง เป็นข่าวร้ายที่ผู้ถือหุ้นรายย่อย TASCO ไม่รู้ระแคะระคายมาก่อน

จึงไม่มีใครขายหุ้นทิ้งทัน ต้องติดหุ้นต้นทุนสูง และไม่รู้ว่ารอบนี้ TASCO จะดิ่งลงลึกขนาดไหน

ถ้าไม่ถูกบีบให้ยกเลิกซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา ราคาหุ้น TASCO คงไม่เกิดความผันผวนรุนแรง เพราะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับค่าพี/อี เรโช ประมาณ 16 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 6% มีผลกำไรต่อเนื่อง และ จัดอยู่ในหุ้นยอดนิยม มีการเก็งกำไรกันเป็นช่วงๆ

แต่แนวโน้มผลประกอบการกำลังเปลี่ยนไป เพราะโรงกลั่นที่สร้างผลผลิตสำคัญจะต้องปิด ทำให้รายได้ลดฮวบ ส่งผลกระทบต่อกำไรและความสามารถในการจ่ายเงินปันผล

และราคาหุ้นต้องปรับฐานลง ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ของโบรกเกอร์ต่างๆ กำลังปรับลดราคาเป้าหมาย TASCO ลงอยู่

ผู้ถือหุ้นรายย่อย TASCO มีจำนวนทั้งสิ้น 12,498 ราย สัดส่วนการถือหุ้นรวมกัน 39.44% ของทุนจดทะเบียน โดยผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหมดออกไม่ทัน เพราะไม่มีเบาะแสข่าวการถูกรัฐบาลสหรัฐฯ บีบให้งดซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา และ ราคาหุ้นหลายวันก่อนหน้าไม่ได้แสดงอาการว่าจะมีข่าวร้ายเกิดขึ้น

TASCO ทรุดติดพื้นไปแล้ว แต่ผู้ถือหุ้นกังวลกันว่า การปรับฐานเพียง 1 ฟลอร์ อาจจะยังสะท้อนรับกับข่าวร้ายที่เกิดขึ้น จึงชิงขายหนีตายกัน แต่แรงซื้อมีจำกัด ทำให้คำสั่งขายค้างเติ่งอยู่อีกมากมาย และจะกดให้หุ้นดิ่งต่อ

นักลงทุนที่รอจังหวะ เก็บ TASCO ในราคาต่ำๆ ช่วงนี้เป็นโอกาสในการซื้อ เพียงแต่จะรอซื้อราคาไหนเท่านั้น






กำลังโหลดความคิดเห็น